xs
xsm
sm
md
lg

มะกันแพร่ข้อมูลข่าวกรองยันอัสซาดใช้อาวุธเคมี ตั้งท่าโจมตีหลังโอบามาลั่นมีหน้าที่ปกป้องผู้บริสุทธิ์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



เอเอฟพี - สหรัฐฯเผยแพร่รายงานข่าวกรองอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์(30) ระบุด้วยความเชื่อมั่นอย่างสูงว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้ใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนและยืนยันไม่น่าเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเป็นการจัดฉากของฝ่ายกบฏ ข้อมูลที่เพิ่มข้อสันนิษฐานฐานว่าอเมริกาจะลงมือถล่มซีเรีย แม้ฝ่ายรัฐบาลซีเรียออกมาตอบโต้ว่าหลักฐานเหล่านั้นเป็นการปั้นแต่งขึ้นมา ขณะที่ประธานาธิบดีโอบามาและรัฐมนตรีต่างประเทศกร้าวความเบื่อหน่ายต่อสงคราม ไม่ควรถูกนำมาเป็นข้ออ้างที่่ชาติมหาอำนาจจะละเลยหน้าที่ตอบโต้การใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์

รายงานข่าวกรองระบุมีประชาชนมากถึง 1,429 ศพที่ถูกสังหารด้วยอาวุธเคมีเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม ในนั้นมีเด็กถึง 426 ศพ และยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้เป็นผลจากการประเมินข่าวกรองที่หลากหลาย "รัฐบาลสหรัฐประเมินด้วยความมั่นใจอย่างสูงว่ารัฐบาลซีเรียคือผู้ลงมือโจมตีอาวุธเคมีบริเวณชานกรุงดามัสกัสเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2013" รายงานที่เผยแพร่โดยทำเนียบขาวระบุ "ผลประเมินของเรายังพบเพิ่มเติมด้วยว่ารัฐบาลใช้ก๊าซพิษที่ทำลายระบบประสาทในการโจมตี่"


ในรายงานเป็นการให้รายละเอียดของลักษณะการเสียชีวิตจากเหตุโจมตีและบอกว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีข้อมูลข่าวกรองใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอีก "จากการประเมินเบื้องต้นของรัฐบาลสหรัฐฯสรุปว่ามีประชาชน 1,429 คน เสียชีวิตในเหตุโจมตีในนั้นมีเด็กอยู่ด้วย 426 ศพ

"เราประเมินเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งข้อกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของฝ่ายต่อต้านนั้นมีความเป็นไปไม่ได้อย่างสูง ข้อมูลที่ใช้ในการประเมินนี้รวมไปถึงข่าวกรองที่พบว่ารัฐบาลซีเรียเตรียมการสำหรับการโจมตีและวิธีที่ใช้ เราได้รับข่าวกรองที่หลากหลายเกี่ยวกับการโจมตีและผลกระทบ มันมีแสนยานุภาพที่แตกต่างระหว่างฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้าน" รายงานระบุ

สหรัฐฯและชาติพันธมิตรตะวันตก กำลังพิจารณาใช้กำลังทหารโจมตีซีเรีย แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถูกคัดค้านอย่างดุเดือดจากทั้งรัสเซียและจีนที่ข้อกล่าวหาใดๆต่อการใช้อาวุธเคมีจำเป็นต้องมีหลักฐานที่หนาแน่นเสียก่อน

ในเรื่องนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยืนยันตามหลังการเผยแพร่ข้อมูลข่าวกรองเมื่อวันศุกร์(30) ว่าความเบื่อหน่ายต่อสงคราม ไม่ควรถูกนำมาเป็นข้ออ้างที่่ชาติมหาอำนาจจะละเลยหน้าที่ตอบโต้การใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะการที่ผู้หญิงและเด็กๆต้องมาสังเวยชีวิตหลายร้อยคน
โอบามา หารือกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติหารือในประเด็นซีเรีย หลังจากมีคำยืนยันว่ารัฐบาลนายอัสซาดใช้อาวุธเข่นฆ่าประชาชน
โดยในขณะที่เขาบอกว่ายังไม่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายว่าจะลงมือโจมตีลงโทษรัฐบาลของบาชาร์ อัล-อัสซาดหรือไม่ แต่คำพูดวานนี้ เป็นสิ่งบ่งชี้ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐฯคงปฏิบัติการโจมตีในไม่ช้านี้ "รูปแบบของการโจมตีนี้ท้าทายโลก" โอบามา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาว "เรามิอาจยอมรับโลกที่ผู้หญิง เด็กและพลเรือนผู้บริสุทธิ์ถูกรมแก๊สพิษอย่างน่าสยอดสยองเช่นนี้ การโจมตีนี้คือภัยคุกคามผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ"

"ผมเคยพูดมาก่อนแล้วและผมก็หมายความอย่างนั้น โลกมีหน้าที่ทำให้มั่นใจว่าเรายังคงอยู่ในบรรทัดฐานของการต่อต้านการใช้อาวุธเคมี" เขากล่าว พร้อมตำหนิคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติต่อความล้มเหลวในการดำเนินการใดๆ ขณะเดียวกัน โอบามา ยังบอกด้วยว่ารัฐบาลของเขาและกองทัพกำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆอย่างกว้างขวาง แต่ปฏิเสธถึงการส่งกำลังโจมตีทางภาคพื้นหรือทำสงครามแบบยืดเยื้อยาวนาน "เรากำลังมอบถึงความเป็นไปได้ในปฏิบัติการที่จำกัดและแคบๆ"

ด้านจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ยืนยันว่ากระแสข้อมูลข่าวกรองที่หลากหลายบ่งชี้รัฐบาลซีเรียเป็นผู้ใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนและนายอัสซาดคือผู้ตัดสินใจขั้นสุดท้ายต่อโครงการอาวุธเคมีของประเทศ ทั้งนี้เขาบอกด้วยว่าการกระทำดังกล่าวไม่ได้กัดเซาะแค่บรรทัดฐานของการต่อต้านการใช้อาวุธเคมีที่มีกันมานานเกือบศตวรรษ แต่ยังเพิ่มความกล้าหาญในการท้าทายโลกของอิหร่าน พันธมิตรของซีเรียและฮิซบอลเลาะห์ด้วย
จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังมีคำแถลงเกี่ยวกับรายงานข่าวกรองต่อวิกฤตอาวุธเคมีในซีเรีย
อย่างไรก็ตามไม่นานหลังความเห็นของโอบามาและแคร์รี ทางรัฐบาลซีเรีย ก็ออกถ้อยแถลงตอบโต้ทันที โดยระบุว่าผลสรุปข่าวกรองสหรัฐฯที่ระบุว่าพวกเขาใช้อาวุธเคมีเข่นฆ่าพลเรือนนั้นเป็นสิ่งที่ปั้นแต่งขึ้นมาทั้งหมด "สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯบรรยายว่าเป็นหลักฐานที่แย้งไม่ได้นั้น ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านิทานเรื่องก่อการร้ายที่พวกเขาแบ่งปันเรื่องราวโกหกและปั้นแต่งขึ้นมาทั้งดุ้นที่วนเวียนมาตลอดทั้งสัปดาห์"

ฝรั่งเศส สนับสนุนแผนโจมตีซีเรียของสหรัฐฯ แต่รัฐสภาอังกฤษโหวตคัดค้านการเข้าร่วมต่อปฏิบัติการทางทหาร ส่่วนพันธมิตรอื่นๆอย่างเยอรมนี ยังไม่ส่งสัญญาณใดๆ ขณะที่อีกฟากหนึ่งรัสเซีย พันธมิตรของซีเรียและจีน ก็ตั้งคำถามต่อรายงานข่าวกรองของสหรัฐฯและเตือนถึงการใช้กำลังใดๆโดยปราศจากอาณัติของสหประชาชาติ

ท่าทีลักษณะนี้ทำให้ดูเหมือนว่าสหรัฐฯกำลังโดดเดี่ยว แต่ทางแคร์รี ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่ได้เป็นแค่ชาติเดียวที่ต้องการลงโทษรัฐบาลของนายอัสซาด โดยนอกเหนือจากฝรั่งเศสแล้ว ก็ยังมีประเทศอื่นๆที่พร้อมให้การสนับสนุน ในนั้นรวมถึงออสเตรเลีย
กำลังโหลดความคิดเห็น