xs
xsm
sm
md
lg

จีดีพีมะนิลาทวนกระแสเอเชียขาลง โตกระฉูด7.5%ตลอดปีมีลุ้นทะลุเป้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ไตรมาส 2 โตระเบิดเถิดเทิงถึง 7.5% เท่ากับจีน จากการใช้จ่ายของภาครัฐและผู้บริโภคที่ช่วยให้แดนตากาล็อกสามารถต้านทานแนวโน้มขาลงและกระแสเงินทุนไหลออกจากเอเชียและตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกในขณะนี้

คณะกรรมการประสานงานด้านสถิติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า ข้อมูลล่าสุดที่เผยแพร่ออกมาในวันพฤหัสบดี (29) ดีขึ้นผิดหูผิดตาจากอัตราเติบโต 6.3% ในช่วงเดือน
เมษายน-มิถุนายนปี 2012 และยังเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวสูงกว่า 7% รวมทั้งทำให้จีดีพีในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ 7.6% เทียบกับ 6.4% ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว

นอกจากนั้นยังถือว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขณะนี้ขยายตัวเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชียทั้งหมด ยกเว้นจีนที่มีอัตราขยายตัวในไตรมาส 2 เท่ากัน

ปีนี้ฟิลิปปินส์ได้รับสถานะประเทศที่น่าลงทุนจากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ 2 แห่ง อันเนื่องมาจากการบริการจัดการทางการคลังและนโยบายการเงินที่รอบคอบ ซึ่งช่วยส่งเสริมความเชื่อมั่นทางธุรกิจ นอกจากนี้ปัจจัยบวกยังมาจากอัตราเงินเฟ้อในระดับต่ำ ขณะที่สถานะทางการคลังของรัฐบาลปรับตัวดีขึ้น

“ขณะที่ประเทศอื่นๆ ที่เคยเติบโตรวดเร็ว มาตอนนี้กลับชะลอลงเนื่องจากภาวะขาลงของเศรษฐกิจโลก แต่เศรษฐกิจฟิลิปปินส์กลับแสดงให้เห็นว่า สามารถต้านทานผลกระทบจากภายนอกได้” อาร์เซนิโอ บาลิซากัน รัฐมนตรีกระทรวงวางแผนเศรษฐกิจ-สังคมของฟิลิปปินส์ สำทับว่าข้อมูลในช่วงครึ่งปีแรกบ่งชี้ว่า จีดีพีตลอดปีนี้มีแนวโน้มสูงกว่าเป้าหมายของทางการซึ่งตั้งไว้ที่ 6-7%

บาลิซากันเสริมว่า องค์ประกอบการเติบโตแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์กำลังอยู่ในขั้นตอนการปรับสมดุล ด้วยการเปลี่ยนผ่านจากการขับเคลื่อนด้วยการบริโภคเป็นส่วนใหญ่ มาเป็นการขับเคลื่อนโดยการลงทุนและการผลิตซึ่งมีความสามารถในการสร้างงานคุณภาพสูงขึ้นสำหรับคนฟิลิปปินส์

การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ของเขา มีขึ้นขณะที่ฟิลิปปินส์เผชิญปัญหาจากการเคลื่อนย้ายของเงินทุน เช่นเดียวกับชาติเอเชียตลอดจนพวกเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ทั้งหลาย โดยที่เงินสดซึ่งเคยทะลักเข้าเมื่อปีที่แล้วอันเป็นผลจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) คงดอกเบี้ยในอัตราต่ำพิเศษตลอดจนใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นั้น กำลังไหลทะลักออก เมื่อเฟดเตรียมชะลอมาตรการคิวอีในปีนี้ และจะยกเลิกโดยสิ้นเชิงในปีหน้า

ปรากฏการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นทั้งหลาย ตั้งแต่มะนิลา จาการ์ตา จนถึงกรุงเทพฯ พากันตกร่วงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินทั้งหลาย โดยที่เงินเปโซของฟิลิปปินส์อ่อนค่าลง 8.5% เมื่อเทียบดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา

อย่างไรก็ดี หลังจากข้อมูลล่าสุดเผยแพร่ออกมา ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์กระเตื้องขึ้นทันทีในวันพฤหัสบดี 3.62%

เอมิลิโอ เนรี นักเศรษฐศาสตร์ของแบงก์ ออฟ ฟิลิปปินส์ ไอส์แลนด์ หนึ่งในธนาคารใหญ่ที่สุดของประเทศ ชี้ว่ามะนิลาสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเลวร้ายที่สุดเนื่องจากไม่พึ่งพิงเงินทุนต่างประเทศอะไรนัก รวมทั้งไม่ได้กู้ยืมต่างชาติมากนักในช่วงที่เฟดใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินสุดขีด

นอกจากนั้นยังสืบเนื่องมาจากการที่ประชากรฟิลิปปินส์ราว 1 ใน 10 ออกไปทำงานต่างแดนและส่งเงินกลับเฉลี่ยถึง 1,700 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน จึงทำให้อุปสงค์ภายในประเทศยังคงเข้มแข็ง และช่วยปกป้องเศรษฐกิจจากการค้าที่ซบเซาลง

การใช้จ่ายของภาครัฐที่พิ่มขึ้น ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งกลางปีในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังช่วยกระตุ้นการบริโภคภายใน ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในระดับที่ควบคุมได้ ทำให้ผู้วางนโยบายสามารถตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เพื่อสนับสนุนการเติบโตต่อไป

กระนั้น นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่า ความท้าทายสำหรับแดนตากาล็อกในขณะนี้คือ การคงนโยบายที่ส่งเสริมการเติบโตเพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากแนวโน้มอุปสงค์ภายนอกชะลอตัวในช่วง 6 เดือนหลัง เนื่องจากเป็นที่คาดว่าการใช้จ่ายของรัฐอาจลดลงหลังการเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีกระแสการโจมตีว่า พวกนักการเมืองนำกองทุนของรัฐไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ในขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น