“อังเกลา แมร์เคิล” ออกโรงเตือน การลด-ล้างหนี้ให้กรีซจะก่อวิกฤตซ้ำเติมยูโรโซน

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีหญิงอังเกลา แมร์เคิลแห่งเยอรมนีเตือน การลด-ล้างหนี้สินให้กรีซ จะก่อให้เกิด วิกฤตของความไม่แน่นอนต่อเนื่อง ซ้ำเติมนักลงทุนในกลุ่มยูโรโซน

ท่าทีล่าสุดของแมร์เคิลเป็นส่วนหนึ่งของการเปิดใจให้สัมภาษณ์กับ “โฟกัส” นิตยสารข่าวรายสัปดาห์ ก่อนจะถึงการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายน โดยนายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนียืนยันว่า เธอไม่เห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการลด-ล้างหนี้สินให้กับกรีซ ชาติสมาชิกยูโรโซนที่มีหนี้สินล้นพ้นตัวจนเกือบประสบภาวะล้มละลายทางเศรษฐกิจ

แมร์เคิลเตือนว่า วิธีการดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไม่ต่างจากปรากฏการณ์ “โดมิโน” และจะนำมาซึ่งความไม่แน่นอนที่จะเป็นผลร้ายโดยตรงต่อความพร้อมและความเชื่อมั่นของบรรดานักลงทุนภาคเอกชนที่จะเข้ามาลงทุนในยูโรโซน

นายกรัฐมนตรีหญิงของเยอรมนีย้ำว่า ในความเป็นจริงแล้วประเด็นเรื่องหนี้สินและการปฏิรูปเชิงโครงสร้างของกรีซมีกำหนดจะถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งในปีหน้า แต่กว่าจะถึงตอนนั้น กรีซยังคงมีสิ่งสำคัญหลายประการที่ต้องดำเนินการ และถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งที่รัฐบาลเอเธนส์จะต้องยึดมั่นในแนวทางแห่งการปฏิรูปต่อไป โดยย้ำว่าการแก้ปัญหาในกรีซนั้นได้ดำเนินมาถูกทางแล้ว

ความเคลื่อนไหวของนางแมร์เคิลสวนทางกับท่าทีของโวล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังของเยอรมนี ที่ออกมาให้ความเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กรีซอาจจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการลด-ล้างหนี้สิน

ขณะที่ยานนิส สตูร์นาราส รัฐมนตรีคลังกรีซออกมาเปิดเผยในวันอาทิตย์ (25) ว่า หากกรีซจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือเป็นรอบที่ 3 จริง วงเงินช่วยเหลือที่กรีซสมควรได้รับนั้นจะต้องไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านยูโร และจะต้องไม่มีการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัดใดๆ เพิ่มเติมอีก

ก่อนหน้านี้ กรีซต้องขอรับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจมาแล้ว 2 ครั้งจากสหภาพยุโรป (อียู) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)โดยครั้งแรกในเดือนพฤษภาคมปี 2010 ในวงเงิน 110,000 ล้านยูโร และครั้งที่ 2 ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วอีก 140,000 ล้านยูโร ขณะที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ในเดือนที่แล้วว่า กรีซอาจต้องการความช่วยเหลืออีกราว 11,000 ล้านยูโรในระหว่างปี 2014-2015