เอเอฟพี - วัยรุ่นชาวอเมริกัน 2 คนซึ่งถูกจับฐานยิงนักเบสบอลชาวออสเตรเลียเสียชีวิต เพียงเพราะ “เบื่อ” ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานวันนี้ (21)
คริส เลน อายุ 22 ปี ตกเป็นเป้าสุ่มฆ่าของสองฆาตกรวัยรุ่น ในเมืองดันแคนรัฐโอกลาโฮมา โดยถูกยิงที่ด้านหลังระหว่างที่เขาออกไปวิ่งออกกำลังกาย เมื่อวันศุกร์ (17) และถูกทิ้งให้เสียชีวิต
“พวกเขารู้สึกเบื่อและอยากเห็นใครสักคนตาย” ผู้กำกับการตำรวจประจำเมืองดันแคน แดนนี ฟอร์ด เผยต่อเว็บไซต์ ABCNews.com
อัยการยื่นฟ้อง เจมส์ เอ็ดเวิร์ดส์ วัย 15 ปี และแชนซี ลูนา วัย 16 ปี ในข้อหาฆ่าตกรรมโดยเจตนา ซึ่งมีโทษถึงประหารชีวิตในรัฐโอกลาโฮมา
ส่วนวัยรุ่นคนที่ 3 คือไมเคิล ดเวย์น โจนส์ วัย 17 ปี ถูกจับข้อหาสมรู้ร่วมคิดและใช้ยานพาหนะเพื่อนำอาวุธไปทำร้ายผู้อื่น
วัยรุ่นสามคนถูกจับกุม หลังจากที่เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ถ่ายภาพไว้ได้ ขณะที่พวกเขากำลังขับรถ
คำให้การที่สำนักข่าวเอเอฟพีได้รับการเปิดเผยว่า จากการตรวจค้นรถของ โจนส์ พบว่ามีกระสุนปืนขนาด .22 1 นัด ซ่อนไว้ที่ช่องแอร์ และอีกจำนวนมาก ซ่อนไว้ในกล่องฟิวส์รถยนต์
เหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่ชุมชนเล็กๆ ของเมืองดันแคน และเป็นข่าวหน้าหนึ่งในออสเตรเลียด้วย
ฟอร์ดให้การกับสื่อออสเตรเลียว่า คริส เลน ซึ่งเป็นนักกีฬาดาวรุ่งกำลังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย อีสต์ เซนทรัล รัฐโอกลาโฮมา โดยเป็นนักกีฬาทุนเบสบอล ตกเป็นเป้าหมายฆาตกรรมแบบสุ่ม
“เขากำลังออกไปวิ่งออกกำลังกาย ในบริเวณที่วัยรุ่นทั้ง 3 อาศัยอยู่ และวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็เลือกเขาเป็นเหยื่อ โดยขับรถตาม เลน ออกไป”
สำนักข่าวเอเอพีในออสเตรเลียอ้างคำพูดของฟอร์ด ซึ่งระบุว่า วัยรุ่นทั้ง 3 คน พยายามที่สังหารผู้อื่นอีก และทิ้งข้อความแบบไม่แยแสบนเฟซบุ๊ก
“พวกเขาคงอยากรู้สึกเจ๋งเหมือน บิลลี่ บ็อบ แบดแอส” ฟอร์ดกล่าว
“ผมคิดว่าพวกเขาคงวางแผนที่จะฆ่าคนต่อเนื่อง เราคงพบศพมากขึ้นหากไม่ได้จับกุมพวกเขาคืนนั้น”
สำนักข่าว เอเอพีรายงานว่า ฆาตกรรายหนึ่งโพสข้อความในเฟซบุ๊กว่า “ปัง! สองศพในสองชั่วโมง”
ปีเตอร์ พ่อของเลน ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้า กล่าวว่าการตายของลูกชายนั้นเป็นเรื่องที่ไร้เหตุผลสิ้นดี
“มันคงไม่ได้อะไรขึ้นมา เพราะว่ามันไร้เหตุผลเอามากๆ” เขาให้สัมภาษณ์กับนักข่าวที่เมืองเมลเบิร์น
ด้านเว็บไซต์สมาพันธ์เบสบอลออสเตรเลียระบุว่า “การจากไปของ คริส เลน ผู้ซึ่งมีพรสวรรค์และเป็นนักกีฬาอนาคตไกล เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างมาก”