เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ข้อมูลชี้ “ซาอุดีอาระเบีย” ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ส่งออกน้ำมันดิบออกสู่ตลาดโลกลดน้อยลงในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เช่นเดียวกับสมาชิกกลุ่มโอเปกอีกหลายชาติทั้งอิรัก คูเวต และไนจีเรีย
ข้อมูลจากรัฐบาลของหลายประเทศที่มีการรวบรวมโดยองค์กร “Joint Organizations Data Initiative” ชี้ว่า ซาอุดีอาระเบีย “ส่งออก” น้ำมันที่ระดับ 7.32 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลดลงจากระดับ7.79 ล้านบาร์เรลต่อวันของเดือนพฤษภาคม ขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันรายวันโดยรวมของราชอาณาจักรแห่งนี้ก็ปรับลดลงกว่า 20,000 บาร์เรลในเดือนมิถุนายนเหลือเพียงวันละ 9.64 ล้านบาร์เรล
ไม่เพียงแต่ซาอุดีอาระเบียเท่านั้น แต่ข้อมูลล่าสุดยังพบว่า อิรัก ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มโอเปกก็มีการส่งออกน้ำมันในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาลดลงเหลือ 2.33 ล้านบาร์เรลต่อวันเช่นกันจากระดับ 2.48 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพฤษภาคม
ขณะที่ยอดการส่งออกน้ำมันของคูเวตก็ปรับลดลงเหลือ 2.09 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนเดียวกัน จากระดับ 2.23 ล้านบาร์เรลในเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกับไนจีเรีย แองโกลา อิหร่าน และลิเบีย ที่ต่างประสบปัญหาภายในจนต้องปรับลดการส่งออกน้ำมันของตนเช่นเดียวกัน
โดยในกรณีของไนจีเรียและแองโกลา สองชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่แห่งภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่เป็นสมาชิกของกลุ่มโอเปกนั้น ต่างมีการปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันในเดือนมิถุนายนลง 0.7 เปอร์เซ็นต์ และ 3.6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ
ข้อมูลขององค์กร Joint Organizations Data Initiative หรือ “JODI” ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของอินเตอร์เนชันแนล เอ็นเนอร์จี ฟอรัม ในกรุงริยาดห์ ระบุว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้ชาติสมาชิกส่วนใหญ่ของกลุ่มโอเปกปรับลดปริมาณการส่งออกน้ำมันสู่ตลาดโลกในช่วงที่ผ่านมาเป็นเพราะความต้องการที่ลดลง รวมถึงการที่กลุ่มโอเปกซึ่งผลิตน้ำมันกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทั่วโลกนั้น ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากบรรดาผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มมากขึ้นในระยะหลัง