xs
xsm
sm
md
lg

‘เวียดนาม’หวาดกลัวว่าจะสูญเสีย‘ลาว’

เผยแพร่:   โดย: วิทยุเอเชียเสรี

(เก็บความจากเอเชียไทมส์ออนไลน์ www.atimes.com)

Hanoi fears Laos loss
By Radio Free Asia
16/08/2013

ทางการฮานอย “กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม” จากการที่มีทุนจีนและทุนไทยเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มี “ความสัมพันธ์พิเศษ” กับเวียดนาม และกำลังวิตกกังวลว่า ทั้งสองชาติดังกล่าวนี้จะโค่นบัลลังก์ตนเองและช่วงชิงตำแหน่งนักลงทุนอันดับสูงสุดในแดนลาวไปครอบครอง ทั้งนี้ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์ลาว

วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาลาว ได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่อาวุโสผู้หนึ่งของลาวว่า ทางการฮานอย “กำลังรู้สึกว่าตนเองถูกคุกคาม” จากการที่มีทุนจีนและทุนไทยเข้าไปลงทุนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มี “ความสัมพันธ์พิเศษ” กับเวียดนาม และกำลังวิตกกังวลว่า ทั้งสองชาติดังกล่าวนี้จะโค่นบัลลังก์ตนเองและช่วงชิงตำแหน่งนักลงทุนอันดับสูงสุดในแดนลาวไปครอบครอง

ความวิตกกังวลดังกล่าวนี้ปรากฏออกมาในสารฉบับหนึ่งที่สำนักเลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ส่งไปให้แก่สำนักเลขาธิการของพรรคคอมมิวนิสต์ลาว เจ้าหน้าที่ชาวลาวผู้นี้เปิดเผยกับวิทยุเอเชียภาคภาษาลาวโดยตั้งเงื่อนไขว่าจะต้องสงวนนามของเขาเอาไว้เป็นความลับ ทั้งนี้พรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศทั้งสองต่างก็เป็นพรรคที่ครองอำนาจปกครองอยู่ในแต่ละประเทศ

สารฉบับดังกล่าวเป็นการย้ำยืนยันอีกครั้งว่า เวียดนามมีจุดมุ่งหมายที่จะเป็นนักลงทุนต่างประเทศอันดับหนึ่งในลาวต่อไปตลอดระยะเวลาหลายๆ ปีข้างหน้านี้ นี่เป็นคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ผู้นี้ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งในคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ของลาว อันมีนามอย่างเป็นทางการว่า พรรคประชาชนปฏิวัติลาว

เจ้าหน้าที่ผู้นี้ระบุว่า เวียดนามกำลังรู้สึกถูกคุกคามว่า เม็ดเงินลงทุนของจีนและของไทย ซึ่งเป็นอีก 2 ชาตินักลงทุนชั้นนำในแดนลาวนั้น จะมีการขยายตัวใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแซงหน้าการลงทุนของเวียดนาม

สำหรับในปีนี้นั้น เวียดนามยังคงมีฐานะเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับหนึ่งในลาว โดยที่กำลังนำเงินทุนเข้าไปในลาวเป็นจำนวนทั้งสิ้น 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯในโครงการต่างๆ รวม 449 โครงการ ขณะที่ไทยและจีนไล่มาติดๆ ในอันดับ 2 และอันดับ 3 ตามลำดับ โดยที่ประเทศทั้งสามรายนี้ ต่างกำลังแข่งขันช่วงชิงกันเพื่อเข้าลงทุนในโครงการต่างๆ ทั้งในภาคพลังงาน, เหมืองแร่, และการเกษตรของลาว

ประเทศไทยนั้นมีโครงการลงทุนในลาวทั้งสิ้น 760 โครงการคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนรวมแล้วมากกว่า 4,800 ล้านดอลลาร์ ส่วนประเทศจีนก็มีโครงการมากกว่า 800 โครงการอยู่ในลาวซึ่งมูลค่ารวมทั้งสิ้นอยู่ในระดับประมาณ 4,000 ล้านดอลลาร์ เวียดนามกำลังวางแผนการที่จะเพิ่มการลงทุนของตนในแดนลาวให้ขึ้นสู่ระดับ 7,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2015

ลาวกับเวียดนาม ซึ่งได้ลงนามในข้อตกลงความสัมพันธ์มิตรไมตรีอันเป็นพิเศษและความร่วมมือกันเป็นพิเศษระหว่างกันมาตั้งแต่ปี 1978 นั้น ในระยะไม่กี่ปีหลังมานี้ยังได้เสนอให้มาตรการจูงใจเพื่อส่งเสริมการลงทุนแก่กันและกัน รวมทั้งมีการลดหย่อนงดเว้นภาษีเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการลงทุนและการค้าระหว่างกันอีกด้วย

ประเทศทั้งสองวางแผนการกันไว้ว่าจะเพิ่มการค้าทวิภาคีจากระดับประมาณ 725 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ขึ้นไปเป็น 2,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2015 และเป็น 5,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2020 ตามรายงานข่าวของหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ (Vientiane Times)

ทั้งนี้ แขวงจำปาสัก ซึ่งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของลาว และมีชื่อเสียงในฐานะที่เป็นศูนย์กลางทั้งทางด้านการท่องเที่ยว, กิจกรรมทางสังคม, และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ คือพื้นที่ซึ่งสามารถดึงดูดนักลงทุนได้มากที่สุดในแดนลาว

นอกเหนือจากเวียดนาม, ไทย, และจีนแล้ว นักลงทุนต่างชาติชั้นนำอื่นๆ ที่เข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากในลาวในระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา ยังประกอบด้วยเกาหลีใต้, ฝรั่งเศส, มาเลเซีย, ญี่ปุ่น, อินเดีย, สิงคโปร์, และสหรัฐอเมริกา

วิทยุเอเชียเสรีภาคภาษาลาว (Radio Free Asia's Lao Service) เป็นผู้รายงานข่าวนี้ เวียงไซ หลวงโคต (Viengsay Luangkhot) เป็นผู้แปลเป็นภาษาอังกฤษ และ ราเชล แวนเดนบริงก์ (Rachel Vandenbrink) เป็นผู้เขียนรายงานข่าวนี้เป็นภาษาอังกฤษ

วิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia ใช้อักษรย่อว่า RFA) ก่อตั้งขึ้นโดยรัฐบัญญัติของรัฐสภาสหรัฐฯ และได้รับการสนับสนุนส่วนหนึ่งจากเงินให้เปล่าของรัฐบาลสหรัฐฯ ปัจจุบัน RFA เป็นผู้ดำเนินการสถานีวิทยุและบริการข่าวสารทางอินเทอร์เน็ต
กำลังโหลดความคิดเห็น