เอเอฟพี - ในวันพุธ (14) พลเรือเอก เจมส์ สตาฟริดิส อดีตผู้บัญชาการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ชี้ว่า ทางสหรัฐฯและชาติพันธมิตรควรประกาศในทันทีถึงจำนวนของกองกำลังรักษาสันติภาพที่จะยังคงอยู่ในอัฟกานิสถานหลังเสร็จสิ้นภารกิจในปี 2014 พร้อมระบุควรมีการคงกำลังทหารต่างชาติไว้ราว 15,000 คน
พลเรือเอก เจมส์ สตาฟริดิส ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นผู้บัญชาการสูงสุดของนาโตนานถึง 4 ปี ให้ความเห็นว่า “มีความสำคัญเป็นอย่างมากที่จะต้องเปิดเผยถึงแนวทางด้านการทหารที่เกี่ยวกับการคงกองกำลังไว้ เพื่อที่จะทำลายการสร้างข่าวของกลุ่มตอลิบาน
โดยสตาฟริดิสได้ให้ความเห็นในนิตยสาร “Foreign Policy” ว่า เขาสนับสนุนการคงกองกำลังทหารชาติตะวันตกไว้ราว 15,000 คน ในอัฟกานิสถานหลังจากที่กองกำลังรักษาสันติภาพส่วนใหญ่จะถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานในปลายปี 2014 ตามแผนตามที่กำหนดไว้
“ผมเชื่อว่าตัวเลขที่เหมาะสมคือ ทหารสหรัฐฯ 9,000 นาย และทหารชาติพันธมิตรอีก 6,000 นาย ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้กองทัพอัฟกานิสถาน ตลอดจนให้คำปรึกษา ช่วยฝึกสอน และแนะนำกองกำลังรักษาความมั่นคงของอัฟกานิสถานจำนวนทั้งสิ้นราว 350,000 นาย” สตาฟริดิสให้ความเห็นเพิ่มเติม
“แทนที่จะปล่อยเวลาให้ผ่านไปหลายเดือน สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรควรจะเร่งเปิดเผยถึงแผนที่จะทำต่อไปในอัฟกานิสถาน” สตาฟริดิสกล่าว
ในขณะนี้พบว่าจำนวนกองกำลังผสมชาติตะวันตกบนแผ่นดินอัฟกันมีทั้งสิ้นราว 100,000 นาย โดยกองกำลังสหรัฐฯนั้นมีอยู่ถึง 2 ใน 3 ของจำนวนทั้งหมด
ท่าทีล่าสุดของสตาฟริดิสสอดคล้องกับความเห็นของนายพลจอห์น แอลเลน อดีตผู้นำสูงสุดของกองกำลัง ISAF ในอัฟกานิสถาน ที่ต้องการให้คงกองกำลังรักษาสันติภาพหน่วยเล็กๆ ไว้ในอัฟกานิสถานราว 13,600 นาย โดยแอลเลนได้เร่งเร้าให้ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ประกาศออกมาอย่างเป็นทางการถึงตัวเลขที่ทางสหรัฐฯต้องการคงกองกำลังไว้
แต่ทว่าทางโฆษกทำเนียบขาวแย้งว่า เหตุเพราะมีความยุ่งยากในการเจรจากับรัฐบาลอัฟกานิสถานในการคงกองกำลังไว้ในระยะยาว ทำให้ไม่มีความเป็นไปได้ที่กองกำลังสหรัฐฯจะยังคงอยู่ในอัฟกานิสถานหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจในปี 2014
ด้านพลเอก โจเซฟ ดันฟอร์ด จูเนียร์ ผู้บัญชาการคนปัจจุบันของกองกำลัง ISAF ในอัฟกานิสถาน ให้ความเห็นว่า เขาจะสามารถเสนอแนะตัวเลขของกองกำลังที่จะคงไว้หลังปี 2014 ได้ก็ต่อเมื่อเขาก้าวพ้นจากหน้าที่นี้ไปแล้วในเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม สตาฟริดิสได้เขียนตบท้ายในความเห็นของเขาว่า “การที่สหรัฐฯตัดสินใจเร็วขึ้นเกี่ยวกับจำนวนของกองกำลังรักษาสันติภาพที่จะคงไว้ จะทำให้อัฟกานิสถานมีความมั่นใจมากขึ้นและจะช่วยสยบข่าวลือต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของอัฟกานิสถาน”
และเมื่อพูดถึงความยากลำบากของกองกำลังผสมสหรัฐฯและนาโตที่ได้ปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้ายในอัฟกานิสถานนั้น สตาฟริดิสได้กล่าวว่า เขาถือว่าภารกิจดังกล่าว “ประสบความสำเร็จ” ที่ทำให้อัฟกานิสถานมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งและสามารถใช้อำนาจทางทหารป้องกันประเทศ รวมถึงมีอำนาจเหนือกลุ่มกบฏที่ยอมสงบศึกกับอัฟกานิสถาน ซึ่งหมายความว่า การคงกองกำลังไว้ 15000 นาย ในอัฟกานิสถาน นั้นจะถือว่าเป็นการเฝ้าระวังที่ดี ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่บ่งชี้ถึงความสำเร็จต่อภารกิจในอัฟกานิสถาน แต่ถ้าไม่มีการคงกองกำลังไว้หลังปี 2014 นั้นก็หมายถึง “ภารกิจที่ล้มเหลว”