รอยเตอร์ – ประธานาธิบดีจอร์โจ นาโปลิตาโน แห่งอิตาลี ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ศาลจะกลับคำพิพากษาจำคุกอดีตนายกรัฐมนตรี ซิลวิโอ แบร์ลุสโกนี ในคดีโกงภาษี พร้อมเอ่ยเตือนมิให้พลพรรคของ แบร์ลุสโกนี ใช้เรื่องนี้มาเป็นเหตุล้มรัฐบาล
คำยืนยันจากนาโปลิตาโน ว่ากฎหมายต้องเป็นกฎหมาย เท่ากับทำลายความหวังของพรรคประชาชนแห่งเสรีภาพ (พีดีแอล) ที่เคยเชื่อว่าอย่างไรเสียประธานาธิบดีคงจะหาทางช่วยให้อดีตนายกฯผู้ฉาวโฉ่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อไปได้ แม้จะมีโทษจำคุกติดตัวอยู่ก็ตาม
พรรคพีดีแอลอ้างว่า การห้ามแบร์ลุสโกนีเล่นการเมืองจะเท่ากับ “ปล้น” เสียงประชาชน 10 ล้านคนที่เลือกเขาเข้ามาในศึกเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และผู้นำพรรคพีดีแอลหลายรายก็พยายามบีบให้นาโปลิตาโนต้องหาทางออกให้ได้
“ทุกคำพิพากษาชี้ขาดและการบังคับใช้บทลงโทษ จะต้องเป็นไปตามนั้น” นาโปลิตาโน ระบุในถ้อยแถลงวานนี้ (13) และเตือนไม่ให้ขั้วการเมืองใดสร้าง “วิกฤตร้ายแรง” บั่นทอนความอยู่รอดของรัฐบาลผสมของนายกรัฐมนตรี เอนริโก เลตตา ในช่วงเวลาที่อิตาลีกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ที่สุดในยุคหลังสงครามโลก
ก่อนหน้านี้ มารินา บุตรสาววัย 47 ปีของแบร์ลุสโกนี ซึ่งดูแลธุรกิจมูลค่ากว่า 6,600 ล้านยูโรของบิดา ออกมาปฏิเสธข่าวลือที่ว่าเธออาจจะถูกยกให้เป็นหัวหน้าพรรคพีดีแอลในช่วงที่แบร์ลุสโกนี ถูกกันออกจากถนนการเมือง
ศาลสูดสุดอิตาลีมีคำพิพากษาให้จำคุก แบร์ลุสโกนี เป็นเวลา 4 ปี และลดโทษให้เหลือ 1 ปี ในคดีโกงภาษีของอาณาจักรสื่อ “มีเดียเซต” ที่เขาเป็นเจ้าของ
นาโปลิตาโนระบุว่า แบร์ลุสโกนีอาจไม่ต้องรับโทษจำคุกเนื่องจากมีอายุมากถึง 76 ปีแล้ว แต่อาจถูกกักบริเวณในบ้านพัก หรือบำเพ็ญสาธารณประโยชน์แทน
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีอิตาลีไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่จะ “อภัยโทษ” แก่แบร์ลุสโกนี เสียทีเดียว แต่ชี้ว่าจะทำเช่นนั้นก็ต่อเมื่อสถานการณ์บังคับถึงที่สุด และจนบัดนี้ก็ยังไม่เคยได้รับคำร้องขอจากตัวอดีตนายกฯเลยด้วยซ้ำ