เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ลาสโล ชาทารี ชาวฮังการีวัย 98 ปี ผู้ที่มีชื่ออยู่ในลำดับต้นๆ ของรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรสงครามนาซี ซึ่งศูนย์ไซมอนวีเซนธัล องค์กรคุ้มครองสิทธิชาวยิวเป็นผู้จัดทำ ได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลแล้ว ทนายความของเขาระบุวันนี้ (12 ส.ค.)
“เขาเสียชีวิตเมื่อเช้าวันเสาร์ (10) หลังจากที่เข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลมาพักหนึ่งแล้ว ทว่าเขาเสียชีวิตจากการติดเชื้อที่ปอด” กาเบอร์ ฮอร์วัธ ทนายความของเขาชี้แจง
ชาทารีถูกกล่าวหาว่ามีส่วนพัวพันอย่างสำคัญกับการขนส่งชาวยิวเรือนหมื่นจากเมืองๆ หนึ่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในประเทศสโลวาเกีย ไปรับความตายที่ค่ายนรกหลายแห่งในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
หลังจากถูกศาลเชโกสโลวาเกียตัดสินประหารชีวิตเมื่อปี 1948 โดยที่เขาไม่ได้ไปปรากฏตัวที่ศาล เขาก็สามารถหลบหนีไปอยู่ที่แคนาดา ประเทศที่เขาอยู่อาศัยและทำงานเป็นผู้ค้างานศิลปะ ก่อนจะถูกถอดสิทธิพลเมืองในช่วงทศวรรษ 1990
เขาเดินทางกลับไปฮังการี ประเทศที่เขาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขอีกราว 15 ปี จนกระทั่งอัยการเริ่มต้นสืบสวนคดีของเขาในปลายปี 2011 โดยอาศัยข้อมูลที่ได้จากศูนย์วีเซ็นธัล
ในเดือนมิถุนายนบรรดาอัยการฮังการีตั้งข้อหาเขา โดยระบุว่าเขา “มีส่วนพัวพันอย่างสำคัญและได้ช่วยเหลือในการขนส่ง” ชาวยิวจากชุมชนยิวในเมืองคัสซา เมื่อปี 1944 ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเมืองโคชิส
อดีตตำรวจผู้นี้ “ทุบตีชาวยิวที่ถูกกักกันด้วยมือเปล่าอยู่เป็นประจำ และใช้แส้สำหรับฟาดสุนัขเฆี่ยนตีพวกเขาอย่างไร้เหตุผล โดยไม่คำนึงถึงเพศ อายุ และสุขภาพของพวกเขา” อัยการกล่าว
ในการรับฟังข้อกล่าวหาแบบไม่ให้สาธารณชนเข้าฟังที่กรุงบูดาเปสต์ ชาทารีซึ่งดูมีสุขภาพแข็งแรงดีในเวลานั้นได้ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และถูกกักบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านตั้งแต่นั้นมา
คดีดังกล่าวนี้ถูกระงับเอาไว้ก่อนเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการฟ้องซ้ำในคดีที่ชาทารีเคยถูกตัดสินไปแล้วว่าผิดจริงตามข้อกล่าว
อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลสูงของฮังการีตัดสินว่าให้ดำเนินการพิจารณาคดีนี้ต่อไป หลังจากที่อัยการประสบความสำเร็จในการอุทธรณ์คำสั่งให้ระงับการไต่สวน
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง สโลวาเกียได้ลดโทษประหารชีวิตของเขาที่ตัดสินไว้เมื่อปี 1948 ให้เหลือเพียงโทษจำคุกตลอดชีวิต และทางการของประเทศนั้นออกหมายเรียกตัวเขาให้มาเข้ารับฟังการตัดสินคดีเมื่อเดือนที่แล้ว (ก.ค.) ทว่าเขาไม่ได้มาปรากฏตัว
ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางการยุโรปได้พยายามนำผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวซึ่งยังมีชีวิตอยู่ในเวลานี้ขึ้นพิจารณารับโทษทัณฑ์ตามความผิดกันอีกครั้ง