รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดในอิสราเอลที่มีการเปิดเผยในวันอังคาร (6) ระบุว่า ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่จะแสดงจุดยืนคัดค้านการทำข้อตกลงสันติภาพใดๆ กับปาเลสไตน์ หากข้อตกลงนั้นจะมีผลให้ต้องมีการกลับไปใช้แนวพรมแดนช่วงก่อนปี ค.ศ.1967 แม้จะมีการกำหนดให้มีการ “แลกเปลี่ยนพื้นที่” บางส่วนเพื่อลดทอนผลกระทบกับการตั้งถิ่นฐานของชาวยิวรวมอยู่ด้วยก็ตาม
ผลสำรวจที่จัดทำโดยสถาบันประชาธิปไตยอิสราเอล ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการของพวกเสรีนิยมพบว่า 65.6 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างไม่เชื่อว่า จะมีการบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ภายในระยะเวลา 1 ปี
ขณะที่กลุ่มตัวอย่างชาวยิวอีก 55.5 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยที่อิสราเอลจะต้องกลับไปยึดถือแนวพรมแดนในช่วงก่อนปี 1967 ถึงแม้จะมีการแลกพื้นที่กับปาเลสไตน์ เพื่อช่วยให้นิคมตั้งถิ่นฐานของชาวยิวในเขตเวสต์แบงก์ และเยรูซาเลมตะวันออก ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลต่อไปก็ตาม
นอกจากนั้น ผลสำรวจยังพบว่า 63 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่างที่เป็น “ชาวยิว” มีจุดยืนคัดค้านการทำข้อตกลงสันติภาพกับปาเลสไตน์ ขณะที่ 15 เปอร์เซ็นต์ของกลุ่มตัวอย่าง “ชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ” ไม่เห็นด้วยกับการมีข้อตกลงสันติภาพเช่นกัน
ในส่วนของมุมมองต่อสถานะของเยรูซาเลมตะวันออกนั้นราว 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งของกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาวยิวไม่เห็นด้วยที่จะปล่อยให้พื้นที่ดังกล่าวตกไปเป็นของปาเลสไตน์ สวนทางกับความคิดเห็นของกลุ่มตัวอย่างที่มีเชื้อสายอาหรับจำนวน 55 เปอร์เซ็นต์ที่ปรารถนาจะได้เห็นเยรูซาเลมตะวันออกกลายเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของปาเลสไตน์โดยสมบูรณ์
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดที่มีการเผยแพร่ในอิสราเอลนั้น มีขึ้นหลังจากกระบวนการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ได้กลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.เมื่อเดือนที่แล้ว หลังหยุดชะงักมา 3 ปี
โดยทาง จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯตั้งเป้าหมายว่า ข้อตกลงสันติภาพฉบับใหม่ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อาจลุล่วงได้ภายในระยะเวลา 9 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ การเจรจาสันติภาพนัดต่อไประหว่างคณะผู้แทนอิสราเอลและปาเลสไตน์คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนสิงหาคมนี้
