เอเจนซีส์ - มือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ราย คาดว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายลัชการ์ อี ไตบา หรือ LET พลาดเป้าโจมตีกงศสุลอินเดียประจำอัฟกานิสถาน ได้สังหารผู้บริสุทธิ์อย่างน้อย 9 ราย ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก และมีผู้บาดเจ็บมากกว่า 24 ราย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ตำรวจอัฟกานิสถานได้ยิงปืนสกัดกลุ่มมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 ราย ในขณะที่รถของพวกเขาเข้ามาใกล้จุดตรวจที่อยู่ด้านนอกสถานกงสุลอิเดียที่เมืองจะลาลาบาด ในอัฟกานิสถาน ที่ใกล้กับพรมแดนปากีสถานโดยหนึ่งในผู้ก่อการร้ายได้จุดชนวนระเบิดรถที่อัดแน่นด้วยระเบิดจนเต็มคันรถ โดยเหตุการณ์นี้ได้ทำร้ายชาวอัฟกันที่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 9 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 24 ราย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจอัฟกัน โดยที่ผู้เสียชีวิตกว่า 6 รายเป็นเด็กอัฟกันผู้อำนวยโรงพยาบาลจะลาลาบาด ดร.ฮูมานยัน ซาไฮร์ เผยนอกจากนี้ ซาไฮร์ยังเผยต่อว่า มือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 รายได้เสียชีวิตทั้งหมดในที่เกิดเหตุ
ที่กรุงนิวเดลี โฆษกประจำกระทรวงต่างประเทศแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ไซเอ็ด อักบารูดิน กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กงสุลอินเดียที่อัฟกานิสถานปลอดภัย
ในขณะที่กลุ่มก่อการร้ายตอลิบานได้ส่งข้อความปฏิเสธความรับผิดชอบการโจมตีครั้งนี้ ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายที่คาดว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อการโจมตีสถานกงสุลอินเดียและแหล่งผลประโยชน์อินเดียคือ “กลุ่มก่อการร้ายลัชการ์ อี ไตบา” หรือ LET ที่ในปี 2008 ได้โจมตีเมืองมุมไบศูนย์กลางการเงินของอินเดีย คร่าชีวิตชาวอินเดียไป 166 คน
ซึ่งก่อนหน้านั้น อินเดียแสดงความรู้สึกไม่พอใจที่ปากีสถานประสบความล้มเหลวในการทลายกลุ่มก่อการร้ายลัชการ์ อี ไตบา ซึ่งในอดีตเคยมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับหน่วยข่าวกรองของปากีสถาน ที่ตลอดมาปากีสถานมองอินเดียเป็นเสมือนคู่แข่งในอัฟกานิสถานที่เปรียบเสมือนเป็นจุดยุทธศาสตร์หลังบ้านของปากีสถาน
“การโจมตีที่แสดงถึงความขี้ขลาดมันจะไม่ทำให้อินเดียหยุดให้ความช่วยเหลืออัฟกานิสถานซึ่งเป็นเพื่อนแท้ของเราในการสร้างประเทศ” สถานทูตอินเดียประจำอัฟกานิสถานแถลงผ่านทวิตเตอร์ตอบโต้หลังจากถูกโจมตี
รองหัวหน้าตำรวจอัฟกานิสถานประจำจังหวัดนานการ์ฮาร์ มาซูม ข่าน ฮาชิมิ กล่าวว่า การโจมตีเริ่มต้นขึ้นเมื่อ ชาย 3 คนในรถวิ่งเข้าใกล้จุดตรวจที่ตั้งไม่ห่างสถานกงศสุลอินเดียประจำอัฟกานิสถาน ชาย 2 คนสวมเสื้อกั๊กที่เต็มไปด้วยระเบิดก้าวออกมาจากรถของพวกเขา และตำรวจอัฟกันที่จุดตรวจได้เริ่มเปิดฉากยิงขึ้นทันที ฮาชิมิเผยต่อว่า ชายคนที่ 3 ที่อยู่ในรถได้จุดระเบิดที่ถูกขนจนเต็มคันรถ
