เอพี - ผู้โดยสารกว่า 20 คนของสายการบินแควนตัสแอร์ไลน์ จากชิลีมุ่งสู่ออสเตรเลีย มีอาการท้องร่วงบนเที่ยวบินที่ใช้เวลาเดินทาง 14 ชั่วโมงเมื่อวันพฤหัสบดี(1) โดยในนั้นมีอยู่ถึง 16 ราย ที่ต้องรุดนำส่งโรงพยาบาลทันทีที่เครื่องลงจอดที่ท่าอากาศยานซิดนีย์ เจ้าหน้าที่เปิดเผยในวันศุกร์(2)
สายการบินแควนตัสเปิดเผยว่าผู้โดยสารทั้ง 26 คนที่ล้มป่วยมาจากกรุ๊ปทัวร์เดียวกัน และอ้างว่าพวกเขาว่าอาจติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ก่อนขึ้นเครื่องที่กรุงซันติอาโก เมืองหลวงของชิลี
สถานีโทรทัศน์เน็ตเวิร์ค เท็น รายงานว่าเหล่าผู้โดยสารของเครื่องบินโบอิ้ง747 ที่มีอาการท้องเสียนั้น เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมของออสเตรเลียและกำลังเดินทางกลับสู่มาตุภูมิในเมลเบิร์น หลังจากไปร่วมงานเยาวชนคาทอลิกโลกที่บราซิล
ถ้อยแถลงของหน่วยฉุกเฉินรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุเมื่อวันพฤหัสบดี(1) ว่าในจำนวนผู้โดยสารทั้งหมดที่ล้มป่วยนั้น มีอยู่ 16 รายที่ต้องนำส่งโรงพยาบาล โดยมีอยู่ 3 รายที่ถึงขั้นต้องหามขึ้นเปลคนไข้ อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดอาการของผู้ป่วยเหล่านั้น
ด้านกระทรวงสาธารณสุขรัฐนิวเซาท์เวลส์ เผยในถ้อยแถลงว่าผู้โดยสารพากันอาเจียนและท้องร่วงไม่หยุดจากการติดเชื้อโนโรไวรัส ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักเป็นสาเหตุของโรคท้องร่วงระบาดในออสเตรเลียและที่อื่นๆ
ส่วนทางโฆษกของแควนตัส ไม่ยืนยันว่าพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินทราบเหตุล้มป่วยหมู่ครั้งนี้เมื่อไหร่ และชี้แจงว่ามันไม่ถึงขั้นฉุกเฉินจนต้องเบี่ยงไปลงจอดกลางทาง "พวกเขาทราบเรื่องตั้งแต่อยู่บนท้องฟ้าแล้วว่ามีการล้มป่วยเป็นเครื่อง ดังนั้นพวกเขาจึงดำเนินการโทรแจ้งและเตรียมการอย่างเหมาะสมเพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงเครื่องบินเมื่อลงจอด และผู้ป่วยก็ถูกกันออกห่างจากคนอื่นๆ"
สำนักข่าวเอพีประจำออสเตรเลียระบุว่าผู้โดยสารที่ล้มป่วยถูกเคลื่อนย้ายไปยังที่นั่งบริเวณด้านหางของเครื่องบิน ซึ่งตรงนั้นมีห้องส้วมอยู่ 4 ห้อง ขณะที่ทางโฆษกของสายการบินก็บอกแบบเดียวกัน แต่ก็ไม่ยืนยันว่าการเคลื่อนย้ายดังกล่าวเป็นการดำเนินการของลูกเรือหรือไม่
ทางแควนตัส ยังให้คำแนะนำผู้โดยสารคนอื่นๆสังเกตสุขภาพของตนเองในช่วง 2 วันจากนี้และขอให้เข้าพบแพทย์ทันทีถ้าเกิดล้มป่วย ทั้งนี้โฆษกของสายการบินไม่ได้ระบุว่าบนเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสารทั้งหมดเท่าไหร่ แต่สำนักข่าวเอเอพี รายงานว่ามีผู้โดยสารบนเครื่องมากกว่า 300 คน
