กระทรวงแรงงานมะกันเผย ตัวเลขว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-อัตราการว่างงานในเมืองใหญ่เกือบทั้งหมดของสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้นในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐฯแถลงในวันอังคาร (30) ว่า พบตัวเลขการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในเมืองใหญ่ 347 เมืองทั่วประเทศเมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม ถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า นโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามายังไม่อาจกระตุ้นให้เกิดการจ้างงานได้อย่างสำคัญในเมืองลุงแซม

ข้อมูลล่าสุดของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯที่พบว่า ตัวเลขการว่างงานเพิ่มสูงขึ้นในเมืองใหญ่ 347 เมืองทั่วประเทศในเดือนที่แล้วนั้น ถือเป็นข่าวร้ายโดยเฉพาะสำหรับบรรดาบัณฑิตใหม่ที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาและเริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดแรงงาน

เมืองยูมา ในมลรัฐแอริโซนา ถือเป็นเมืองที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดในสหรัฐฯเวลานี้จากการที่ชาวเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นแรงงานอพยพในภาคเกษตร ไม่มีงานทำสูงถึงร้อยละ 31.8 สวนทางกับเมืองบิสมาร์ค เมืองหลวงของมลรัฐนอร์ธ ดาโกต้าที่มีอัตราการว่างงานต่ำที่สุดเพียงร้อยละ 2.8

แต่หากพิจารณาเฉพาะเขตเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรตั้งแต่ 1 ล้านคนขึ้นไปนั้นปรากฏว่า เขตเมืองดีทรอยต์-วอร์เร็น-ไลวอเนีย ในมลรัฐมิชิแกน จะถือเป็นพื้นที่ที่มีอัตราการว่างงานสูงที่สุดในประเทศที่ร้อยละ 10.3 ในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 9 ในเดือนก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี ตัวเลขการว่างงานเฉลี่ยของทั้งประเทศในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ร้อยละ 7.6 ลดลงจากร้อยละ 8.2 เมื่อช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่ยอดการจ้างงานเฉลี่ยของสหรัฐฯในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาอยู่ที่ราว 202,000 ตำแหน่งต่อเดือน