รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อน ในเมืองชายแดนของปากีสถานที่อยู่ใกล้กับอัฟกานิสถานเพิ่มเป็นอย่างน้อย 52 ราย โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ นับเป็นเหตุโจมตีจากความขัดแย้งทางศาสนาที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายเดือน
ความตึงเครียดระหว่างชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ กับชาวมุสลิมซุนนี ที่เป็นชนส่วนใหญ่ของปากีสถาน ได้เพิ่มสูงขึ้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยพวกกลุ่มหัวรุนแรงของชาวมุสลิมซุนนี ซึ่งมองว่าชาวชีอะห์เป็นพวก “นอกรีต” มักก่อเหตุโจมตีพวกชีอะห์บ่อยครั้ง
เหตุโจมตีระลอกล่าสุดจากการระเบิดฆ่าตัวตาย 2 ครั้งซ้อนเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันศุกร์ (26) ที่ตลาดแห่งหนึ่งในเมืองพาราชินาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน โดยในช่วงที่เกิดการระเบิดนั้นเป็นช่วงที่มีผู้คนออกมาจับจ่ายหาซื้ออาหารสำหรับมื้อค่ำหลังการถือศีลอดเป็นจำนวนมาก
ริอาซ มะห์ซุด หัวหน้าเขตปกครองกูร์รัม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีประชากรมุสลิมชีอะห์อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากออกมาเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวได้เพิ่มจาก 39 รายเป็นอย่างน้อย 52 ราย เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายเสียชีวิตในเวลาต่อมา เพราะทนความเจ็บปวดไม่ไหว โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดล้วนเป็นชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ทั้งสิ้น
ขณะที่ อาบู บาเซียร์ ซึ่งอ้างว่าตนเองเป็นโฆษกกลุ่มหัวรุนแรง “อันซอรูล มูจาฮิดีน” ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ทางกลุ่มวางแผนจะก่อเหตุโจมตีในลักษณะที่คล้ายคลึงกันเพิ่มมากขึ้น เพื่อแก้แค้นต่อความโหดเหี้ยมของพวกชีอะห์ที่กระทำต่อชาวมุสลิมนิกายซุนนีทั้งในซีเรียและอิรัก
ทั้งนี้ ชาวมุสลิมชีอะห์มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 เท่านั้น จากจำนวนประชากรปากีสถานทั้งประเทศ 180 ล้านคน
