หลังเหตุการณ์ปิดล้อมสภา “ปธน.บัลแกเรีย” เรียกร้องให้ผู้ประท้วงยุติความรุนแรงและพร้อมเปิดการเจรจา

เอเอฟพี - ภายหลังจากเหตุการณ์ที่กลุ่มผู้ประท้วงบัลแกเรียหลายพันคนปิดล้อมสภายาวนานกว่า 7 ชั่วโมง ในวันอังคาร (23) ที่ผ่านมา และในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ช่วยออกมาได้สำเร็จในเช้าวันพุธ (24) นั้น นายกรัฐมนตรี พลาเมน โอเรชาสกี แห่งบัลแกเรีย ในวันพฤหัสบดี (25)
ได้แถลงผ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้ผู้ประท้วงยุติความรุนแรง พร้อมกับเผยว่าพร้อมที่จะร่วมหาข้อตกลงและเปิดการเจรจา

กว่า 7 ชั่วโมงที่คณะรัฐมนตรี สมาชิกสภาบัลแกเรีย ผู้สื่อข่าว และเจ้าหน้าที่รัฐสภาบัลแกเรียที่ถูกขังไว้ในรัฐสภา พวกเขาได้ถูกช่วยออกมาสำเร็จ โดยตำรวจหน่วยปราบจลาจลที่ฝ่าวงล้อมผู้ประท้วงเข้าไปในช่วงเวลา 5.00 น ของเช้าวันพุธ (24) ที่ผ่านมา

โดยในวันวันพฤหัสบดี (25) นายกรัฐมนตรี พลาเมน โอเรชาสกี แห่งบัลแกเรีย กล่าวผ่านแถลงการณ์ เรียกร้องให้ผู้ประท้วงที่ขับไล่เขาออกจากตำแหน่งให้ยุติความรุนแรง โดยเขาพร้อมที่ร่วมหาข้อตกลงและเปิดการเจรจา

“ผมร้องขอให้การประท้วงนั้นเป็นไปตามหลักประชาธิปไตย โดยไม่มีการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง และการแสดงออกนั้นต้องมีขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างเสรีภาพ และการแสดงความคิดเห็นและความพยายามที่จะฝ่าฝืนกฎหมาย” และโอเรชาสกี ยังเสริมต่อไปว่า “ที่ผ่านมา การประท้วงที่สันติได้นำไปสู่การทำลายข้าวของสาธารณะ การใช้ถังขยะและรื้อทางเท้าและสิ่งอื่นๆ เพื่อปิดกั้นท้องถนนไม่ให้สัญจร มีการปะทะกัน และยั่วยุเจ้าหน้าที่ทางกฎหมาย เป็นต้น”

โอเรชาสกี และรัฐบาลผสมของเขาถูกประท้วงขับไล่มาเป็นเวลากว่า 41 วันแล้ว โดยผู้ประท้วงต้องการให้เขาและคณะลาออก “โอเรชาสกีไม่ได้แม้แต่เข้าร่วมการประชุมสภาในวันอังคาร !!! ถ้าผู้ชายคนนี้คิดว่าตัวเองเป็นผู้นำประเทศที่แท้จริงแล้ว เขาควรที่จะมีศักดิ์ศรีในตัวเองมากกว่านี้ด้วยการมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเรา ที่เรียกร้องความยุติธรรมอยู่ด้านนอกของรัฐสภา” อานี แรลชีฟา ศิลปินชาวบัลแกเรีย วัย 72 เผยในการประท้วงที่กรุงโซเฟียเมื่อวานนี้ (24)

“นี่เป็นวิกฤตศรัทธาต่อชนชั้นนักการเมืองและประเทศ ปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ว่าจะมีการเลือกตั้งทั่วไปหรือไม่ แต่จะอยู่ที่จะมีเมื่อไหร่” แรลชีฟาเผยต่อ

อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ โอเรชาสกียังปฎิเสธที่จะก้าวลงจากอำนาจตามคำเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วง และยังไม่มีท่าทีที่จะประกาศกำหนดการเลือกตั้งครั้งใหม่แต่อย่างใด โดยให้ความเห็นเพียงว่า มันจะทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงไปอีก และจะมีผลร้ายต่อเศรษฐกิจที่บอบบางของบัลแกเรีย

โอเรชาสกี และรัฐบาลผสมของเขาได้รับการเลือกตั้งจากการจัดการจัดเลือกตั้งที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังจากการลาออกของอดีตนายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย บอยโกบอริซอฟ และคณะ เนื่องมาจากเกิดเหตุการณ์ประท้วงในมาตรการรัดเข็มขัด และการขึ้นค่าไฟฟ้า เป็นผลให้มีผู้บาดเจ็บหลายสิบราย