เอเอฟพี - อินเดีย ชาติผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกข้อกำหนดรอบใหม่เกี่ยวกับการจำกัดการนำเข้าโลหะมีค่าชนิดนี้ในความพยายามลดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาล
ธนาคารกลางอินเดีย(อาร์บีไอ) แถลงว่ากฎข้อบังคับใหม่นี้กำหนดเงื่อนไขว่าทุกการนำเข้าทองคำในแต่ละเที่ยว จะต้องจัดสรรไว้สำหรับไว้ผลิตและประกอบเครื่องประดับ และจำหน่ายในต่างประเทศอย่างน้อยที่สุด 1 ใน 5 ขณะที่เครื่องประดับอัญมณี ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของอินเดีย โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของการส่งออกรวม หรือราวๆ 70 ตันในแต่ละปี
โดยธนาคารกลางอินเดียระบุว่าบรรดาผู้นำเข้าทองคำที่ได้รับอนุญาต เช่น ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทห้างร้านค้าทองคำ จะต้องกันทองคำอย่างน้อยร้อยละ 20 ของการนำเข้าทองคำแต่ละครั้ง เพื่อจุดประสงค์ในการส่งออกโดยเฉพาะ
ค่าเงินอินเดียแข็งค่าขึ้นแตะ 59.35 รูปีต่อหนึ่งดอลลาร์ทันทีเมื่อเช้าวันอังคาร(23) หลังจากธนาคารกลางออกมาตรการล่าสุดต่อทองคำ อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของการซื้อขายก็อ่อนค่าลงสู่ 59.72 รูปีต่อดอลลาร์
ด้าน วิโนด ฮายากริฟ คณะกรรมการสมาพันธ์การค้าอัญมณีและเครื่องประดับแห่งอินเดีย ตำหนิมาตรการใหม่ของธนาคารกลางว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่แคบมาก โดยระบุข้อจำกัดต่างๆเหล่านั้นจะทำให้ทองคำขาดตลาด
การนำเข้าทองคำและน้ำมันคือปัจจัยสำคัญต่อระดับการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างมโหฬารในปัจจุบันของอินเดีย ซึ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลคิดเป็นร้อยละ 4.8 ของจีดีพีในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการนำเข้าที่เลยเถิด
ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทางการอินเดียเพิ่มอากรนำเข้าทองคำมาแล้ว 2 รอบในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่นายฮายากริฟ บอกว่ามาตรการต่างๆเหล่านั้น "ดูเหมือนว่าจะเป็นกรณีการกำลังถูกต้อนให้จนมุมและแกว่งดาบอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่รู้ว่าศัตรูนั้นคือใคร"