รอยเตอร์ - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งซ้อนที่มณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เพิ่มเป็นอย่างน้อย 89 ราย และมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีกไม่ต่ำกว่า 500 วันนี้ (23) หลังแรงสั่นสะเทือนทำให้อาคารบ้านเรือน 1,200 หลังพังถล่ม และได้รับความเสียหายหนักอีกกว่า 21,000 หลัง
แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.45 น. ตามเวลาท้องถิ่นวานนี้ (22) และก่อความเสียหายรุนแรงใน 8 เมืองซึ่งอยู่บริเวณพื้นที่ภูเขาของเขตหมินเซียนและจางเซียน ห่างจากเมืองหลานโจวไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 170 กิโลเมตร ตามรายงานของสำนักข่าวซินหวา
สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) วัดความรุนแรงของแผ่นดินไหวระลอกแรกได้ 5.9 ตามมาตราแมกนิจูด ติดตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 5.6 ขณะที่สื่อทางการจีนรายงานตัวเลขแผ่นดินไหวไว้สูงถึง 6.6
ฉาง เจิงกว๋อ โฆษกฝ่ายบริหารมณฑลกานซู เปิดเผยว่า ตั้งแต่เช้าจนถึงช่วงเย็นวานนี้ (22) เกิดอาฟเตอร์ช็อกโดยรวมถึง 422 ครั้ง วัดความรุนแรงได้สูงสุด 5.6
เมืองติ้งซี (Dingxi) ซึ่งเป็นจุดที่ได้ความเสียหายหนักที่สุด แถลงวานนี้ (22) ว่า มีชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัยกว่า 27,000 คน ขณะที่ภาพถนนเลียบแม่น้ำที่พังถล่มและบ้านเรือนที่กลายสภาพเป็นเพียงกองอิฐหักพัง ถูกนำไปเผยแพร่ตามสื่อสังคมออนไลน์ของจีน
ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 3,000 นายถูกส่งเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยแล้ว ทว่าดินถล่มและน้ำท่วมก็เป็นอุปสรรคทำให้การเข้าถึงชาวบ้านเป็นไปได้ยาก ขณะที่เจ้าหน้าที่บางคนแสดงความกังวลว่า หากมีฝนตกลงมาอีกอาจต้องจัดเตรียมสถานที่พักพิงแก่ชาวบ้านเพิ่มเติม
มณฑลกานซูมีอาณาเขตติดต่อกับมณฑลเสฉวน ซึ่งเคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.6 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คร่าชีวิตพลเมืองจีน 164 ราย และมียอดผู้บาดเจ็บสูงกว่า 6,700 คน
แผ่นดินไหวดังกล่าวถือว่ารุนแรงที่สุดในรอบ 3 ปี และมีศูนย์กลางอยู่ไม่ไกลจากจุดที่เคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.9 เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2008 ซึ่งครั้งนั้นมีชาวมณฑลเสฉวนล้มตายไปถึง 70,000 คน
