เอเจนซีส์ - ผู้พิพากษาโรสแมรี อควิลินา แห่งรัฐมิชิแกน สั่งให้เมืองดีทรอต์เพิกถอนคำร้องยื่นขอล้มละลายท่ามกลางหนี้ราว 18 พันล้าน ดอลลาร์ ถือเป็นการยื่นขอล้มละลายของภาครัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ในขณะที่วอชิงตันยังไม่ส่งสัญญาณจะช่วยอุ้มดีทรอยต์
ผู้พิพากษาโรสแมรี อควิลินา แห่งรัฐมิชิแกน เผยว่า คำร้องยื่นขอล้มละลายของเมืองดีทรอยต์ที่ถูกยื่นเมื่อวันพฤหัสบดี(18) ต้องถูกถอนออกไป เหตุเพราะขัดทั้งกฎหมายรัฐมิชิแกนและรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ เพราะการขอล้มละลายอาจกระทบต่อกองทุนเกษียณของชาวดีทรอยต์ได้ ในขณะที่วอชิงตันยังไม่ส่งสัญญาณจะช่วยอุ้มดีทรอยต์
ในการที่ขอยื่นล้มละลายนั้นอนุญาตให้เมืองดีทรอยต์สามารถ ตั้งผู้จัดการฉุกเฉินได้ โดยเควิน ออร์ ผู้จัดการฉุกเฉินของดีทรอยต์จะทำหน้าที่ขายทรัพย์สินของเมืองเพื่อตอบสนองต่อบรรดาเจ้าหนี้และผู้เรียกร้องสวัสดิการบำนาญ
การที่เมืองตกอยุ่ในสภาพการล้มละลาย จะทำให้เมืองดีทรอยต์หรือเมืองอื่นๆที่ตกในสภาพเดียวกันในสหรัฐฯ มีความลำบากมากขึ้นในการขอกู้เงิน และในเดือนที่ผ่านมาเมืองดีทรอยต์ได้หยุดกรชำระหนี้เพื่อให้เมืองมีเงินมากพอที่จะสามารถจ่ายค่าดำเนินงานของเมืองได้
ในเนื้อหาคำสั่งของผู้พิพากษาอควิลินานั้น กฎหมายปี 2012ที่อนุญาตให้เมืองสามารถยื่นขอล้มละลายได้นั้นขัดรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ เพราะมันอนุญาตให้ผู้ว่าการรัฐทำอะไรก็ได้ต่อกองทุนบำนาญของเจ้าหน้าภาครัฐในเมืองดีทรอยต์
แต่ทว่ายังไม่แน่ชัดว่าคำสั่งศาลในครั้งนี้จะมีผลต่อการต่อสู้ทางด้านกฎหมายอย่างไร
หลังจากนั้นไม่นาน อัยการประจำรัฐฯได้ยื่นอุทรณ์ต่อคำสั่งนี้ในนามของผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ริค ซินเดอร์ ซึ่งสนับสนุนการยื่นล้มละลายในครั้งนี้
ทางด้านวอชิงตัน ยังไม่มีสัญญาณจากรัฐบาลโอบามาว่าจะช่วยกอบกู้ดีทรอยต์ที่มีหนีสูงถึง 20 พันล้านดอลลาร์ เพราะลำพังหนี้ของสหรัฐฯที่รัฐบาลกลางกำลังปวดหัวอยู่ก็สูงถึง 16.7 ล้านล้านดอลลาร์
ดีทรอยต์ในขณะนี้ที่เป็นเมืองหลวงแห่งอุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐฯ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 4 ในอเมริกาในยุค 50 ได้มีการลดลงของจำนวนประชากรตามลำดับ เนื่องจากความตกต่ำของอุตสาหกรรมรถยนต์ในอเมริกา ช่วงเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ 2008-2009
ในการตอบคำถามเรื่องการกอบกู้ดีทรอยต์โดยรัฐบาลกลาง รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน กล่าวว่า “เราจะช่วยดีทรอยต์ได้ไหม เรายังไม่รู้เลย”
ในขณะที่ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนไม่แสดงถึงความต้องการให้รัฐบาลกลางหรือรัฐบาลท้องถิ่นเข้ามาช่วยเหลือการเงิน หลังจากที่ทางเมืองดีทรอยต์ได้ยื่นคำขอล้มละลายตามกฎหมาย Chapter 9 Bankruptcy Protection ในวันพฤหัสบดี(18) โดยซินเดอร์กล่าวว่า “ชาวเมืองดีทรอยต์ไม่ควรคาดหวังให้ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นมาช่วยเหลือวิกฤตในครั้งนี้ เมืองดีทรอยต์ถังแตกแล้ว เพราะ 38% ของงบประมาณหมดไปกับการคืนหนี้และกองทุนบำนาญ ดังนั้นไม่มีทางอื่นที่จะทำได้สำหรับดีทรอยต์นอกจากขอล้มละลาย การยื่นขอล้มละลายของดีทรอยต์ เป็นการก้าวไปสู่ทศวรรษใหม่ของความเจริญรุ่งเรือง”
จากหนี้ทั้งหมดของเมืองทั้งสิ้น 18 พันล้าน ดอลลาร์ มีจำนวน 9 พันล้านดอลลาร์ที่ดีทรอยต์ต้องจ่ายให้กับกองทุนบำนาญของเจ้าหน้าที่รัฐในเมืองดีทรอยต์จำนวน 10,000 คน และเงินประกันสุขภาพของเจ้าหน้าที่เกษียณอายุไปแล้วอีก 20,000 คน
ชะตากรรมของดีทรอยต์เหมือนกับอีก 3 เมืองในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ก่อนหน้านั้นได้ขอยื่นล้มละลาย และต่างโดยสิ้นเชิงกับธุรกิจรถยนต์ยักษ์ใหญ่ที่มีฐานการผลิตที่เมืองดีทรอยต์ อย่าง เจนเนอรัล มอร์เตอร์สและไครสเลอร์ ที่ประสบปัญหาทางการเงินในขณะนั้น จนกระทั่งรัฐบาลกลางในสมัยแรกของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ต้องเข้ามาอุ้ม ภายใต้กฎหมายล้มละลาย
