เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ที่ย่านแห่งหนึ่งในกรุงเม็กซิโกซิตี เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 มิ.ย.) ประชาชนต่างฝ่าสายฝนเพื่อนำถุงใบโตซึ่งภายในบรรจุกล่องนม ขวดพลาสติก และกล่องกระดาษ มาเข้าแถวรอการแลกเปลี่ยนเป็นอาหาร ตามโครงการตลาดรักสิ่งแวดล้อม ซึ่งฝ่ายบริหารกรุงเม็กซิโกซิตีจัดขึ้นทุกเดือน เพื่อแก้ไขปัญหาขยะล้นเมือง
แม้สภาพอากาศจะไม่เป็นใจ แต่ผู้คนก็ยังกระตือรือร้นที่จะนำวัสดุเหลือใช้เหล่านี้มาแลกแต้ม เพื่อนำไปซื้อผักและสินค้าปลอดสารพิษอื่นๆ ที่ “เมอร์กาโดเดทรูเก” หรือ ตลาดแลกเปลี่ยนสินค้า
“นี่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีมาก เพราะมีหลายครั้งที่เราคิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไรกับของเหลือใช้เหล่านี้ ซึ่งถ้าโยนมันทิ้งไป ก็จะดูไร้ความรับผิดชอบเอามากๆ” มาเรีย เฟอร์นันดา วาสเกซ ช่างภาพคนหนึ่งที่กำลังเบียดตัวหลบฝนอยู่ใต้ร่มคันเดียวกับเพื่อนกล่าว
ตลาดเมอร์กาโดเดทรูเก คือ หนึ่งในตลาดรักสิ่งแวดล้อมจำนวนมากซึ่งก่อตั้งขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยฝ่ายบริหารเมืองหลวงของรัฐบาลฝ่ายซ้าย เพื่อลดความสกปรกของมหานครที่มีประชากร 20 ล้านคนและปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันแห่งนี้ ซึ่งเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว เม็กซิโกซิตีได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก
ตลาดนัดรายเดือนซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อปีที่แล้ว มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าและประโยชน์ของสิ่งของให้มากขึ้น ซึ่งมิเช่นนั้นแล้วจะต้องไปจบลงในกองขยะ และตลาดเหล่านี้ก็มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จนมีขยะที่หนักรวมกันกว่า 12,000 ตันต่อวัน
ที่ตลาดแห่งนี้ เหล่าเจ้าหน้าที่ซึ่งสวมผ้ากันเปื้อนจะเป็นผู้นำวัสดุที่นำกลับมาใช้ได้ใหม่มาชั่งน้ำหนัก จากนั้นก็นำไปกองสุมบนรถบรรทุกที่จอดรออยู่ เพื่อส่งให้บริษัทรีไซเคิลขยะในพื้นที่
ผู้เข้าไปใช้บริการที่ตลาดแห่งนี้จะได้รับแต้มสีเขียวซึ่งนำมาใช้แทนเงินได้ โดยจำนวนแต้มขึ้นอยู่กับปริมาณขยะที่นำมาแลก จากนั้นพวกเขาสามารถนำแต้มที่ได้ไปซื้ออาหารและสินค้าอื่นๆ ที่ตลาดขายพืชผลด้านข้าง
กลยุทธ์ของตลาดแห่งนี้ย่อมหมายความว่า จะไม่มีใครกลับบ้านมือเปล่าหลังจากที่นำขยะมาหมุนเวียน
นอกจากนี้ ผู้ผลิตสินค้าในท้องถิ่นจะได้ประโยชน์ด้วยเช่นกัน โดยพวกเขาได้ขายสินค้าของตัวเองให้รัฐบาล แล้วนำของเหล่านั้นมารอการแลกเปลี่ยนที่ตลาด
เมื่อปีที่แล้ว โครงการนี้สามารถเก็บรวบรวมวัสดุเหลือใช้ที่มีน้ำหนักกว่า 170,000 ตัน