เอเอฟพี - โบลิเวียเมื่อวันพุธ(3) ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงสหประชาชาติและยังมีแผนส่งคำร้องอีกฉบับไปยังคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ต่อกรณีหลายประเทศในยุโรปปิดน่านฟ้าห้ามเครื่องบินของประธานาธิอีโว โมราเลส บินผ่าน หลังมีข่าวลือว่าแอบซุกซ่อนชาวอเมริกันผู้เปิดโปงโปรแกรมสอดแนมลับสุดยอดซึ่งวอชิงตันกำลังต้องการตัวเป็นอย่างยิ่งเอาไว้
"ในฐานะรัฐบาล เรากำลังจะยื่นคำร้องไปทั่วโลก" อัลวาโร การ์เซีย รองประธานาธิบดี ซึ่งทำหน้าที่รักษาการณ์ตำแหน่งผู้นำประเทศระบุ "เราได้ยื่นคำร้องของสหประชาชาติแล้วและในอีกไม่กี่ชั่วโมง เราจะส่งหนังสือถึงสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ" การ์เซียกล่าว พร้อมระบุว่าเหตุละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศครั้งนี้นำพาชีวิตของประธานาธิบดีโมราเลสตกอยู่ในความเสี่ยง
โบลิเวียเผยว่าเครื่องบินของประธานาธิบดีโมราเลส กำลังบินจากมอสโกมุ่งหน้ากลับสู่มาตุภูมิ แต่ระหว่างนั้นกลับถูกบีบบังคับให้ไปลงจอดที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ด้วยต้องสงสัยแอบซุกซ่อนนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้แฉโปรแกรมสอดแนมลับสุดยอดของสหรัฐฯไว้บนเครื่อง
การถูกบังคับให้เปลี่ยนเส้นทางบินนั้น เกิดขึ้นหลังจากเครื่องบินมุ่งหน้าออกจากมอสโกในคืนวันอังคาร(2) ตามหลังโมลาเลส ซึ่งไปเข้าร่วมการประชุมด้านพลังงานที่เมืองหลวงรัสเซีย ได้เอ่ยปากขณะอยู่ที่นั่นว่า โบลิเวียจะรับไว้พิจารณา หากสโนว์เดน ยื่นคำร้องขอลี้ภัยทางการเมือง
พวกเจ้าหน้าที่โบลิเวียกล่าวหาทั้งฝรั่งเศส โปรตุเกส อิตาลี และสเปน ว่าในเบื้องต้นไม่ยินยอมเปิดน่านฟ้าให้แก่เครื่องบินของโมลาเลสบินผ่าน จึงบีบให้ไอพ่นลำนี้ต้องเปลี่ยนเส้นทางใหม่ สืบเนื่องจากประเทศเหล่านี้เชื่อข่าวลือที่ไม่มีมูลว่า สโนว์เดนกำลังเดินทางมาพร้อมกับประธานาธิบดีโบลิเวีย
บนภาคพื้นในกรุงเวียนนา ตำรวจเข้าดำเนินการตรวจค้นเครื่องบินและไม่พบสัญญาณใดๆว่ามีการหลบซ่อนตัวของนายสโนว์เดน และจากนั้นเหล่าประเทศในยุโรปก็กลับมาอนุญาตให้เครื่องบินของประธานาธิบดีโมลาเลสใช้น่านฟ้าตามเดิม
พวกชาติละตินอเมริกาซึ่งเป็นพันธมิตรของโมลาเลส เป็นต้นว่า เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ คิวบา และนิการากัวต่างออกมาแสดงความโกรธขึ้งต่อเหตุการณ์ที่ทำให้เครื่องบินประธานาธิบดีโบลิเวียต้องเปลี่ยนเส้นทางบิน เช่นเดียวกับประธานาธิบดีคริสตินา เคิร์ชเนอร์ ที่ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นการหลบหลู่เกียรติกันอย่างมาก
ในบัญชีทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีหญิงรายนี้ะบุว่า "แน่นอนว่าพวกเขาบ้ามาก ผู้นำประเทศและเครื่องบินของเขาควรได้รับการคุ้มครองโดยสิ้นเชิง" พร้อมเผยว่าเธอได้พูดคุยกับประธานาธิบดีโฮเซ มูจิกา แห่งอุรุกวัย ซึ่งก็แสดงความขุ่นเคืองพอๆกัน
ด้านนายโฮเซ มิเกล อินซูลซา ประธานองค์การนานารัฐอเมริกัน เรียกร้องขอคำอธิบายต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยเขาอ้างว่ามันก่อความเสี่ยงต่อชีวิตของประธานาธิบดีโบลิเวียเป็นอย่างยิ่ง "ไม่มีความชอบธรรมใดๆที่จะนำมาอ้างเป็นเหตุผลของพฤติกรรมที่ขาดความเคารพต่อผู้มีอำนาจสูงสุดของประเทศใดประเทศหนึ่งเช่นนี้"
