ผู้ลี้ภัยซีเรีย “เข้าตาจน” โดนเพื่อนบ้านปิดประตูใส่ “โชคยังดี” เลบานอน “อ้าแขนรับ”

เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ตุรกี จอร์แดน และอิรัก ต้องเปิดทางเข้าพรมแดนทุกเส้นทาง เพื่อให้ชาวซีเรียหลายหมื่นคนที่อยู่ระหว่างหลบหนีภัยสงครามในประเทศสามารถเข้าไปแสวงหาที่พักพิงได้ องค์กรฮิวแมนไรต์วอตช์ (HRW) แถลงเมื่อวันจันทร์ (1)

“เจ้าหน้าที่ป้องกันชายแดนของประเทศอิรัก จอร์แดน และตุรกี กำลังปิดกั้นไม่ให้ประชาชนหลายหมื่นคนที่พยายามหนีออกจากซีเรีย เข้าประเทศของตัวเอง” องค์กรสิทธิมนุษยชนสากลดังกล่าวระบุ โดยกล่าวเสริมว่าชีวิตของผู้หนีภัยสงครามเหล่านี้กำลังตกอยู่ในอันตราย

“หาก อิรัก จอร์แดน และตุรกี ไม่ปิดเส้นทางข้ามพรมแดนเข้าประเทศของตนอย่างสิ้นเชิง ก็อนุญาตให้ชาวซีเรียข้ามพรมแดนไปได้ในจำนวนจำกัด จึงทำให้มีอีกหลายหมื่นตกค้าง

องค์การสหประชาชาติให้ข้อมูลว่าชาวซีเรียมากกว่า 1.7 ล้านคนกำลังหลบหนีปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ โดยคนจำนวนมหาศาลได้พากันแสวงหาที่พักพิงตามประเทศเพื่อนบ้าน

ทว่า มีเลบานอนเพียงประเทศเดียวเท่านั้น ที่มีนโยบายเปิดประตูต้อนรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย HRW แถลง

องค์กร HRW ซึ่งมีฐานในนครนิวยอร์กออกมาเน้นย้ำถึง กฎหมายระหว่างประเทศที่ “ห้ามมิให้ชาติใดๆ ก็ตามส่งกลับ หรือปิดกั้นผู้ที่พยายามหนีออกจากประเทศ ซึ่งมีภัยคุกคามต่อชีวิตและเสรีภาพของบุคคลผู้นั้น”

HRW เรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือ เร่งให้การสนับสนุนบรรดาประเทศซึ่งเป็นที่พักพิงของผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย

อย่างไรก็ตาม องค์กร HRW ระบุว่า ไม่ว่าประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้จะอ้างว่า หากรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้ามาในประเทศแล้วจะได้รับแรงกดดัน หรือได้ให้ความช่วยเหลือซีเรียด้วยวิธีใดๆ แล้วก็ตาม ก็ไม่สามารถนำข้ออ้างเหล่านี้มาสร้างความชอบธรรมในการละเมิดสิทธิของผู้ลี้ภัยเหล่านี้ ไม่ให้พวกเขาได้รับการปกป้องจากการถูกข่มเหงและการประทุษร้ายอื่นๆ

นอกจากนี้องค์กรสิทธิมนุษยชนแห่งนี้ยังกล่าวอีกว่า จอร์แดนได้ปฏิเสธเรื่องการปิดทางเข้าพรมแดน แม้ว่า “ผู้ลี้ภัยกลุ่มที่เพิ่งเดินทางมาถึงเมื่อเร็วๆ นี้...บอกว่าเจ้าหน้าที่ป้องกันชายแดนของจอร์แดนปิดกั้นเส้นทางไม่ให้พวกเขาและคนอื่นๆ เข้ามาได้ เป็นเวลาหลายวันจนถึงหลายสัปดาห์ เมื่อเดือนพฤษภาคม”

ส่วนรัฐบาลของเขตปกครองตนเอง เคอร์ดิสถานก็ยอมรับว่าได้ปิดทางเข้าตรงพรมแดนรอยต่อระหว่างอิรักกับซีเรียจริง แต่ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ได้อนุญาตให้ชาวซีเรียบางส่วนที่ต้องการความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินสามารถข้ามผ่านมาได้

สำหรับ แบกแดด “ได้จำกัดจำนวนชาวซีเรียที่ได้รับอนุญาตให้ข้ามผ่านพรมแดนได้อย่างเข้มงวด ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2012 และได้ยุติการอนุญาตให้ผ่านเป็นการถาวร เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา” HRW เผย

ทางด้าน ตุรกีก็ปิดกั้นทางเข้าบับ อัล-ซาลาม และอัทมา รวมไปถึงพรมแดนอื่นๆ ไม่ให้ชาวซีเรียเข้าไปได้เช่นกัน องค์กรดังกล่าวชี้แจง