เอเอฟพี/เอเจนซี/วอลล์สตรีท เจอร์นัล - วอลล์สตรีทพุ่งแรงและน้ำมันปิดบวกวานนี้ (26) สวนทางกับทองคำที่ดิ่งอีกกว่า 45 ดอลลาร์ แตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานของสหรัฐฯ ทำนักลงทุนคาดเดากันไปต่างๆ นานาต่อกรณีธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) จะคงโครงการเข้าซื้อพันธบัตรเชิงรุกต่อไปหรือไม่
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 150.06 จุด (1.02 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,910.37 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 28.34 จุด (0.85 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,376.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.26 จุด (0.96 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,603.29 จุด
ความเคลื่อนไหวในแดนบวกของวอลล์สตรีท มีขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ปรับลดประมาณการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกลงจากร้อยละ 2.4 สู่ 1.8 บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่เฟดจะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป หลังก่อนหน้านี้ออกมาแถลงว่าอาจชะลอแผนกระตุ้นปลายปีนี้และยกเลิกกลางปีหน้า หลังแสดงความมั่นใจว่าเศรษฐกิจอเมริกาฟื้นตัวเข้มแข็งและยั่งยืนขึ้น
“ตอนนี้นักลงทุนเข้าใจว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะถอนมาตรการ QE ก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเท่านั้น" ไมเคิล เจมส์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาดของเวดบุช มอร์แกน ซีเคียวริตี ระบุ "ถ้าเราไม่เห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เฟดก็จะไม่ถอน QE”
ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันวานนี้ (26) แกว่งตัวจากแดนลบในช่วงครึ่งวันเช้าและปิดบวกตามตลาดทุน
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 18 เซ็นต์ ปิดที่ 99.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 40 เซ็นต์ ปิดที่ 101.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคาทองคำวานนี้ (26) กลับดิ่งลงเกือบร้อยละ 4 แตะระดับต่ำสุดในรอบเฉียด 3 ปี โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 45.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,229.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของอเมริกาบางส่วน เพิ่มโอกาสที่เฟดจะพับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ
ข้อมูลที่เผยแพร่ออกมาเมื่อค่ำคืนวันอังคาร (25) ระบุว่า ดัชนีราคาบ้านเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสำนักงานคอนเฟอเรนซ์บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐฯ เดือนมิถุนายน ก็ทะยานสู่ระดับ 81.4 จุด จาก 74.3 จุดในเดือนพฤษภาคม เช่นเดียวกับยอดคำสั่งซื้อสินค้าลงทนเดือนพฤษภาคม ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.6
