เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา โทรศัพท์หา เรเซป ตอยยิบ เออร์โดแกน นายกรัฐมนตรีของตุรกีเมื่อวันจันทร์ (24) เพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องความสำคัญเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น หลังจากที่มีเหตุรุนแรงปะทุขึ้นในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลตุรกีในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองยังพูดคุยถึงซีเรีย รวมไปถึงความจำเป็นที่ต้องให้ความช่วยเหลือให้กับกลุ่มกบฏซึ่งทั้งสองชาติสนับสนุนให้มากขึ้น ภายหลังที่สหรัฐฯ ได้ส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับกลุ่มกบฏที่ต้องการโค่นล้มประธานาธิบดีบาซาร์ อัล-อัสซาด
ทำเนียบขาวแถลงว่า เออร์โดแกนได้อธิบายสถานการณ์ในตุรกีให้โอบามาทราบ ทั้งนี้การที่เจ้าหน้าตำรวจต้องโต้ตอบด้วยการใช้ความรุนแรงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ก็เพราะถูกผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ที่สวนสาธารณะเกซี ซึ่งอยู่ใกล้กับจัตุรัสทักซิม ในนครอิสตันบูลยั่วยุ
“ผู้นำทั้งสองได้ถกเถียงกันเรื่องความสำคัญของการไม่ใช้ความรุนแรง และสิทธิในการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี รวมไปถึงสิทธิในการชุมนุม และเสรีภาพของสื่อมวลชน” ทำเนียบขาวระบุ
ก่อนหน้านี้ ผู้นำของรัฐบาลทั้งสองประเทศต่างออกมาโต้เถียงกันเกี่ยวกับปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วยถ้อยคำที่เผ็ดร้อน โดยฝ่ายสหรัฐฯ ออกมาแสดงความกังวลต่อวิธีที่ตำรวจใช้รับมือกับผู้ประท้วงว่า “เกินกว่าเหตุ” ในขณะที่ทางตุรกีได้ปฏิเสธคำวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น
โอบามาในขณะที่ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีใช้เวลานานพอสมควร ในการเกลี้ยกล่อมเออร์โดแกนผู้ซึ่งถือว่าเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง แต่ถูกฝ่ายค้านของตุรกีกล่าวหาว่าเริ่มแสดงความเผด็จการออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าสหรัฐฯ รู้สึกประหลาดใจกับเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในตุรกี เนื่องจากมันปะทุขึ้นภายหลังที่ประธานาธิบดีโอบามาได้ให้การต้อนรับเออร์โดแกนที่ทำเนียบขาวอย่างอบอุ่นเพียงไม่กี่อาทิตย์
เจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวกล่าวว่าผู้นำทั้งสองยังได้หารือกันในประเด็นปัญหาของประเทศซีเรียอีกด้วย “ซึ่งรวมไปถึงการที่รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนของตนเอง”
การสนทนากันคราวนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของทำเนียบขาวหลายคนระบุว่ากินเวลานาน ได้มุ่งความสนใจไปที่ “ความมุ่งมั่นที่ทั้งสหรัฐฯ และตุรกีมีร่วมกันในการหาทางออกทางการเมือง (และ) ความจำเป็นในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมกับกลุ่มกบฏต่อต้าน