เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุโธโยโนแห่งอินโดนีเซีย แถลงขอโทษอย่างเป็นทางการต่อสิงคโปร์และมาเลเซียในวันอังคาร (25) หลังจากประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองได้รับผลกระทบจากวิกฤตหมอกควันที่เกิดจากการเผาป่าบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซีย
“ในฐานะประธานาธิบดีแห่งอินโดนีเซีย ข้าพเจ้าขออภัยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นและข้าพเจ้าปรารถนาจะได้รับความเข้าใจจากประชาชนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ เรายอมรับว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นความรับผิดชอบของอินโดนีเซีย” ผู้นำอินโดนีเซีย วัย 63 ปี กล่าว
ท่าทีล่าสุดของประธานาธิบดียุโธโยโนถือเป็นความพยายามล่าสุดของทางรัฐบาลแดนอิเหนา ในการผ่อนคลายความตึงเครียด หลังวิกฤตหมอกควันส่งผลให้เกิดการกล่าวหาโจมตีกันระหว่างรัฐบาลจาการ์ตาและเพื่อนบ้านจนถึงขั้นที่รัฐมนตรีรายหนึ่งในรัฐบาลอินโดนีเซียออกมากล่าวหารัฐบาลสิงคโปร์ว่า “ทำตัวเหมือนเด็กน้อย”
หมอกควันที่เกิดจากการเผาป่าเพื่อแผ้วถางพื้นที่สำหรับทำการเกษตรบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายที่สุดในรอบทศวรรษของสิงคโปร์ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง แม้ในช่วงไม่กี่วันมานี้ กระแสลมจะช่วยพัดพาหมอกควันส่วนใหญ่ขึ้นไปทางเหนือสู่น่านฟ้าของมาเลเซียบ้างแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ดี ยังไม่มีปฏิกิริยาใดๆจากรัฐบาลสิงคโปร์และมาเลเซีย ภายหลังจากการกล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดียุโธโยโน ผู้นำอินโดนีเซียต่อวิกฤตที่เกิดขึ้น
ขณะที่รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ระดับของมลพิษทางอากาศที่วัดได้ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียขณะนี้ พุ่งสูงใกล้แตะระดับ 200 จุดซึ่งเป็นระดับที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อสุขภาพเป็นครั้งแรก นับแต่เกิดวิกฤตหมอกควันรอบนี้ โดยโรงเรียนในกรุงกัวลาลัมเปอร์และในอีกหลายรัฐต้องปิดการเรียนการสอน ขณะที่ทางการได้ออกคำแนะนำให้พ่อแม่ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานของตนให้อยู่แต่ภายในบ้าน หรือต้องสวมหน้ากากเมื่อออกนอกที่พัก
ในอีกด้านหนึ่ง ความพยายามของรัฐบาลอินโดนีเซียในการควบคุมไฟป่า ด้วยการใช้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินทิ้ง “ระเบิดน้ำ” และการทำฝนเทียมยังคงไม่ประสบความสำเร็จมากนัก
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานในวันอังคาร (25) ว่า นาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีแดนเสือเหลืองออกมาตั้งข้อสังเกตว่า เพราะเหตุใดในช่วงที่ผ่านมา จึงมีความพยายามของทางอินโดนีเซียในการเบี่ยงเบนประเด็นว่า ผู้ใดกันแน่ที่เป็นเจ้าของพื้นที่เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลายชนิดบนเกาะสุมาตราของอินโดนีเซียโดยมีการอ้างว่า มีนักลงทุนจากมาเลเซียและสิงคโปร์จำนวนมากเข้าไปถือครองที่ดินบริเวณที่เกิดไฟป่าในแดนอิเหนา
“ผมคิดว่าเราไม่ควรจะไปกังวลว่า พื้นที่เพาะปลูกที่เกิดการจุดไฟเผาป่านั้นมีใครเป็นเจ้าของกันแน่ จะเป็นชาวอินโดนีเซีย มาเลเซียหรือสิงคโปร์ก็ไม่สำคัญ ผมเห็นว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรหันมาให้ความสำคัญ กับการดำเนินการกับบรรดาผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ที่เป็นต้นตอของการทำให้เกิดไฟป่ามากกว่า” นาจิบกล่าว พร้อมเผยว่า เขาได้ส่งจดหมายถึงประธานาธิบดียุโธโยโนแห่งอินโดนีเซียแล้ว เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจาการ์ตาลงโทษอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่ทำให้เกิดไฟป่า
ขณะที่ตำรวจอินโดนีเซียเผยว่าได้จับกุมผู้ต้องสงสัยจำนวนอย่างน้อย 9 คนที่คาดว่าจะเป็นผู้เริ่มลงมือจุดไฟเผาป่าบนเกาะสุมาตราแล้ว โดยทั้งหมดล้วนเป็นเกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันรายย่อยในพื้นที่