เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ระบุ ตัวเขายังคง “คลางแคลงใจ” ต่อข้อกล่าวหาของรัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่อ้างว่า มีหลักฐานว่ารัฐบาลซีเรียใช้ “อาวุธเคมี” ในการต่อสู้กับฝ่ายกบฏในประเทศ
เซอร์เก วิกโทโรวิช ลาฟรอฟ วัย 63 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาลมอสโก มาตั้งแต่ปี ค.ศ.2004 เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวหลังเข้าพบหารือกับเอ็มมา โบนิโน รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลีเมื่อวันเสาร์ (15) โดยลาฟรอฟยอมรับว่า เขายังมีข้อสงสัยมากมายต่อข้อกล่าวของสหรัฐฯที่ว่า รัฐบาลซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาดใช้อาวุธเคมีในการทำสงครามกับฝ่ายกบฏ โดยลาฟรอฟตั้งข้อสังเกตุว่า เพราะเหตุใดรัฐบาลซีเรียจึงต้องใช้อาวุธเคมี ทั้งๆที่กำลังเป็นฝ่ายที่ได้เปรียบในทุกๆด้านในการทำสงครามกับฝ่ายกบฏ
รัฐมนตรีต่างประเทศแดนหมีขาวยังเตือนว่า ความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯในการกำหนด “เขตห้ามบิน” เหนือน่านฟ้าของซีเรีย เข้าข่ายการละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศอย่างชัดแจ้ง
“เราหวังว่าเพื่อนชาวอเมริกันของเรา จะหันมามุ่งมั่นกับเวทีเจรจาสันติภาพที่มีรัฐบาลมอสโกและวอชิงตันให้การสนับสนุนมากกว่า เพราะช่องทางแห่งการเจรจาถือเป็นหนทางเดียวเท่านั้นที่จะช่วยให้สถานการณ์ในซีเรียพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น แทนที่จะไปมุ่งมั่นกับการกำหนดเขตห้ามบิน ซึ่งเป็นวิธีที่ละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ” ลาฟรอฟกล่าว พร้อมย้ำว่า ความพยายามใดๆของรัฐบาลโอบามา ในการช่วยเหลือด้านอาวุธโดยตรงแก่พวกกบฏซีเรีย มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในซีเรียเลวร้ายยิ่งกว่าเดิม