เอเอฟพี/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - รัฐบาลแอฟริกาใต้แถลงในวันจันทร์ (10) โดยระบุอาการป่วยของอดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลายังคงอยู่ในขั้นร้ายแรง แต่ยังทรงตัว หลังจากแมนเดลาซึ่งเป็นผู้นำผิวสีคนแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศในวัย 94 ปี ถูกนำตัวเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพราะมีอาการติดเชื้อที่ปอดตั้งแต่เมื่อ 2 วันก่อน
“อดีตประธานาธิบดีเนลสัน แมนเดลา ยังคงต้องพักอยู่ในโรงพยาบาลต่อไป และอาการของเขายังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง” คำแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ระบุ
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันอาทิตย์ (9) มีรายงานข่าวระบุแมนเดลาซึ่งครองอำนาจในฐานะผู้นำแอฟริกาใต้ระหว่างปี ค.ศ. 1994-1999 ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นคืนที่ 2 ติดต่อกัน ขณะเดียวกัน การออกมาแถลงล่าสุดว่าอาการป่วยของแมนเดลายังไม่เปลี่ยนแปลงนั้นยิ่งสร้างความวิตกกังวลแก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศมากขึ้น เพราะเมื่อวันเสาร์ (8) ก็มีการแถลงว่าอาการป่วยของอดีตผู้นำแอฟริกาใต้อยู่ในขั้นร้ายแรงแต่อาการยังทรงตัวเช่นกัน
การต้องนอนพักในโรงพยาบาลครั้งล่าสุดนับเป็นครั้งที่ 4 ของแมนเดลานับตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา และมีขึ้นเพียงแค่ไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่นายแมนเดลาซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 95 ปีในเดือนหน้า เพิ่งเดินทางออกจากโรงพยาบาลหลังมีอาการติดเชื้อที่ปอด ท่ามกลางความกังวลของประชาชนและสื่อมวลชน รวมถึงปฏิกิริยาบนโลกออนไลน์ในแอฟริกาใต้ที่เกรงว่า อดีตผู้นำต่อต้านการแบ่งแยกสีผิวรายนี้อาจจากไปอย่างไม่มีวันกลับ ขณะที่นางกราซา มาเชล ภริยาของนายแมนเดลา ได้เดินทางมาเฝ้าอาการป่วยถึงขอบเตียง หลังจากเธอยกเลิกแผนการเดินทางไปยังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรอย่างกะทันหัน
ขณะที่ แม็ค มหาราช โฆษกประจำทำเนียบของประธานาธิบดีเจค็อบ ซูมา เผยต่อสำนักข่าวต่างประเทศในคืนวันเสาร์ (8) โดยยืนยันว่า แมนเดลา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 1993 ยังคงสามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง
ก่อนหน้านี้แมนเดลาต้องเผชิญกับปัญหาด้านสุขภาพเป็นระยะนับตั้งแต่ปี 1988 เป็นต้นมา ทั้งอาการป่วยจากวัณโรค มะเร็งต่อมลูกหมาก และการเจ็บป่วยในช่องท้อง แต่ปัญหาที่ปอดของแมนเดลากลายเป็นอาการป่วยสำคัญที่ส่งผลให้อดีตผู้นำแอฟริกาใต้ไม่สามารถปรากฏตัวต่อสาธารณชนได้อีกเลยนับตั้งแต่รอบชิงชนะเลิศของศึกฟุตบอลโลกปี 2010 ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ
