เอเอฟพี - ราคาน้ำมันนิวยอร์กและลอนดอนวานนี้(4) ปิดสวนทางท่ามกลางปัจจัยที่ผสมผสาน ส่วนวอลล์สตรีท ลงพอสมควร จากความกังวลต่อตัวเลขทางเศรษฐกิจอเมริกา ขณะที่ทองคำ ก็ดิ่งแรงเกือบ 15 ดอลลาร์ หลังมีข้อวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ในชาติผู้บริโภครายใหญ่อย่างอินเดีย
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 93.91 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.18 ดอลลาร์ ปิดที่ 103.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันลอนดอนดีตัวขึ้นอย่างแรง ส่วนหนึ่งมาจากความกังวลต่อเหตุสงครามกลางเมืองในซีเรีย หลังฝรั่งเศสยืนยันพบข้อพิสูจน์ว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีกับกลุ่มกบฏ
อย่างไรก็ตามปัจจัยดังกล่าวไม่ส่งผลต่อราคาในตลาดนิวยอร์ก เหตุนักลงทุนมีความวิตกกังวลต่อตัวเลขคลังพลังงานสำรองรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ ที่จะเผยแพร่ออกมาในวันพุธ(5) มากกว่า หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วพบว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศแตะระดับสูงสุดตลอดกาล บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันอ่อนแอ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(4) มีแรงเทขายเข้ามา จนปิดลบพอสมควร หลังตัวเลขขาดดุลการค้าของขายตัวขึ้น ส่งสัญญาณรอบใหม่ว่าเศรษฐกิจอเมริกายังคงอ่อนแอ
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 76.49 จุด (0.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,177.54 จุด แนสแดค ลดลง 20.11 จุด (0.58 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,445.26 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 9.04 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,631.38 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยเมื่อวังอังคาร(4) ว่ายอดขาดดุลการค้าของสหรัฐประจำเดือนเมษายน แตะระดับ40,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม 3,200 ล้านดอลลาร์ หลังยอดนำเข้ารถยนต์และโทรศัพท์มือถือพุ่งสูงแซงหน้ายอดส่งออก แม้ปริมาณการนำเข้าน้ำมันจะลดลงก็ตาม
ส่วนราคาทองคำวานนี้(4) ปิดลบราวร้อยละ 1 จากข้อวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์ในอินเดีย ชาติที่มีสัดส่วนบริโภคทองคำสูงที่สุดในโลก หลังประเทศแห่งนี้เพิ่มความเข้มงวดในการนำเข้าโลหะมีค่าชนิดนี้ โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 14.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,397.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์