รอยเตอร์ - อากาศยานไร้คนขับ “โดรน” ของสหรัฐฯ ได้สังหาร 7 ชีวิต แถบทางตอนเหนือของวาซิริสถาน ในปากีสถานวันนี้(29) เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับความมั่นคงเผยต่อว่า เป็นครังแรกของการโจมตีจากโดรนหลังการเลือกตั้งทั่วไปในปากีสถานเมื่อ วันที่ 11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยมีปัญหาการใช้โดรนใปากีสถาน เป็นหัวข้อถกเถียงที่สำคัญ
ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ชี้แจงเมื่อเร็วๆนี้ว่า เขาได้ปรับลดโปรแกรมการใช้โดรนในปฎิบัติการที่ปากีสถานลง หลังจากได้การอนุญาตให้ปฏิการอย่าระมัดระวังอีกครั้ง ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปของปากีสถาน ซึ่งเป็นประเทศพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในการต่อสู้กับการก่อการร้าย
อย่างไรก็ตามกระทรวงต่างประเทศปากีสถานได้กล่าวประนามการโจมตีของโดรนอย่างเป็นทางการ
“การใช้โดรนโจมตีผู้ก่อการร้ายในปากีสถานเป็นการปรปักต่ออธิปไตย์เหนือดินแดนและรัฎฐาธิปัตย์ของปากิสถานและเราขอประนามมัน” เจ้าหน้าที่จากกระทรวงต่างประเทศปากีสถานเผยกับรอนเตอร์
เจ้าหน้าที่ทางการทหารของปากีสถานและชนเผ่าปาชตุนทางเขตตะวันตกเฉียงเหนือเผยว่า โดรนได้ยิงจรวดมิสไซล์ 2 ลูกโจมตีหมู่บ้านเชสมา 3 กิโลเมตร หรือ 2 ไมล์ ทางตะวันออกของเมืองมิแรนชาห์
พวกเขาเผยต่อว่ามียอดเสียชีวิต 7 ราย และมีจำนวนผู้บาดเจ็บ 4 ราย ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคนทั้ง 11 รายนั้นเป็นเป้าการโจมตีหรือไม่
“คนจากเผ่าปาชตุนเริ่มการช่วยเหลือหลังจากที่การโจมตีสิ้นสุดลง และได้พบร่างผู้เสียชีวิต 7 ราย” จากการเผยของคนท้องถิ่น บาชไชร์ ดาวาร์ และเสริมต่อไปว่า “ร่างผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพที่นาสยดสยองและเกินจินตนาการไปมาก”
ทางตอนเหนือของวาซิริสถานอยู่ใกล้เขตแดนปากีสถาน เป็นดินแดนของปฎิบัติการทางทหารที่รวมไปถึงกลุ่มก่อการร้ายตาลิบันรวมจนถึงพันธมิตรของพวกเขาอย่างกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์
ในส่วนของนายกรัฐมนตรีที่เพิงได้รับการเลือกตั้งมาหมาดๆ นาวาซ ชารีฟ กล่าวว่าในเดือนนี้ว่า ปฎิบัติการโจมตีโดรน “เป็นเรื่องที่ท้าทาย” มากต่อรัฎฐาธิปัตย์ของปากิสถาน
“เราจะนั่งลงพร้อมกับเพื่อนของเรา อเมริกา และจะปรึกษาในข้อปัญหานี้” ชารีฟเผย
ในส่วนของประธานาธิบดีโอามา เขาประกาศถึงการปรับลดโปรแกรมการใช้โดรนในปฎิบัติการว่าได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวางจากประชาชนชาวปากีสถานที่อาศัยอยู่ในเขตทางตอนเหนือของวาซิริสถาน เป็นบริเวณที่การปฎิบัติการโดรนจู่โจมกองกำลังก่อการอยู่ประมาณ 7 ปี และบางครั้งรุนแรงจนกระทั่มีพลเรือนเสียชีวิต โดยสังหารพลเรือนชาวปากีสถานเสียชีวิตไปแล้วทั้งสิ้นราว 2,800คน ตลอด 7 ปี ของการปฎิบัติการ
และนอกจากนี้รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถานกล่าวในอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ารู้สึกขอบคุณในการยอมรับของประธานาธิบดีสหรัฐฯที่ข้าใจว่าการปฎิบัติการทางทหารอย่างเดียวนั้นไม่ได้ผล และเสริมว่าต้องมุ่งไปที่ต้นตอของการก่อการร้าย