เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงยืนยันในวันอังคาร (21) ว่า ชายชาวตูนิเซีย วัย 66 ปีรายหนึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสมรณะสายพันธุ์ใหม่คล้ายโรคซาร์ส หลังกลับจากการเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะ ในซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นผู้แสวงบุญรายที่ 2 ที่ติดเชื้อมรณะชนิดจากการเข้าไปแสวงบุญ ณ ราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้
คำแถลงขององค์การอนามัยโลกและกระทรวงสาธารณสุขตูนิเซีย ระบุว่า ชายชาวตูนิเซียรายดังกล่าวได้เสียชีวิตลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมาจากการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะทางพันธุกรรมคล้ายไวรัสที่ทำให้เกิดโรคซาร์สที่แพร่ระบาดในเอเชียเมื่อหลายปีก่อน
โดยการเสียชีวิตของชายชราผู้นี้มีขึ้นเพียง 4 วันเท่านั้น หลังจากที่เขาเดินทางกลับจากการไปแสวงบุญที่ซาอุดีอาระเบียและการท่องเที่ยวในกาตาร์ ขณะที่บุตรสาววัย 35 ปี ที่ร่วมเดินทางไปด้วยก็ติดเชื้อชนิดนี้และล้มป่วยเช่นกัน ส่วนบุตรชายวัย 34 ปี ติดเชื้อ แต่ยังไม่มีอาการป่วย
จนถึงขณะนี้ องค์การอนามัยโลกยืนยันว่าเชื้อไวรัสนี้ ซึ่งยังไม่พบวิธีการรักษาให้หายขาดสามารถติดต่อแพร่กระจายได้จาก “สัตว์สู่คน” และจาก “คนสู่คน” แต่ยังไม่พบการแพร่ระบาดในระดับชุมชนเป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดของ WHO จนถึงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมายืนยันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่คล้ายโรคซาร์สมี 40 รายทั่วโลกนับตั้งแต่พบการระบาดครั้งแรกเมื่อกันยายนปีที่แล้ว โดยในจำนวนนี้มีผู้เสียชีวิต 20 คน ซึ่งเท่ากับว่าราว 50 เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อมรณะได้เสียชีวิตลงแล้ว
