เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสคล้าย “ซาร์ส” ในซาอุดีอาระเบียขยับเพิ่มเป็น 15 ราย จากทั้งหมด 24 รายที่ได้รับเชื้อตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข อับดุลเลาะเห์ อัล-ราเบีย แถลงวานนี้ (12)
ในงานแถลงข่าวที่กรุงริยาด ราเบีย เปิดเผยว่า “จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสคล้ายซาร์สทั้งราชอาณาจักร นับตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนปีที่แล้วเป็นต้นมา อยู่ที่ 24 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีที่เสียชีวิตไปแล้ว 15 ราย”
รายงานจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เมื่อวันอังคารที่แล้ว (7) ระบุว่า ซาอุดีอาระเบียมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัส NcoV-EMC หรือโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ รวมทั้งสิ้น 11 ราย
ทางการซาอุฯ ยังพบผู้ป่วยต้องสงสัยอีก 3 คน ซึ่งคาดว่าได้รับเชื้อขณะพำนักอยู่ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งรัฐบาลจะทำการตรวจสอบให้แน่ชัด และประกาศผลการตรวจ “อย่างโปร่งใส” รัฐมนตรีสาธารณสุขยืนยัน
เคอิจิ ฟุกุดะ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายความมั่นคงด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมของ WHO แถลงต่อสื่อในกรุงริยาดเมื่อวานนี้ (12) ว่า เชื้อไวรัสมรณะที่พบถือเป็นภักคุกคามครั้งสำคัญต่อประเทศที่พบผู้ป่วยแล้ว รวมถึงประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญกำลังศึกษาเพื่อทำความเข้าใจทุกแง่มุมเกี่ยวกับไวรัสชนิดนี้ และระบุให้ได้ว่า เชื้อสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้อย่างไร
อย่างไรก็ตาม ฟุกุดะเน้นว่า “ไวรัสชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งไม่ใช่ซาร์ส”
“มันเป็นเชื้อไวรัสชนิดใหม่ซึ่งเราเองยังขาดความรู้ความเข้าใจ และคงต้องใช้เวลาอุดช่องโหว่ในจุดนี้พอสมควร... อย่างไรก็ดี สิ่งที่ทั่วโลกกำลังกังวลมากที่สุดก็คือ การแพร่กระจายของเชื้อไวรัส และจากที่เราพบผู้ป่วยหลายกลุ่มในหลายๆประเทศก็เป็นเครื่องยืนยันสมมติฐานที่ว่า โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่สามารถติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ หากบุคคลนั้นเข้าไปคลุกคลีกับผู้ป่วย”
“ลักษณะของการแพร่เชื้อระหว่างบุคคลยังอยู่ในวงจำกัด และจนบัดนี้ก็ยังไม่พบหลักฐานว่า ไวรัสชนิดนี้จะสามารถแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องไปยังชุมชนอื่นๆ ได้”
โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ถูกพบครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 2012 และมีรายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลกรวม 34 ราย ในจำนวนดังกล่าวเสียชีวิตไปแล้ว 18 ราย ตามข้อมูลของ WHO
ไวรัสชนิดนี้มีลักษณะคล้ายกับเชื้อไวรัสซึ่งก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลัน (Severe Acute Respiratory Syndrome – SARS) ที่เคยระบาดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเมื่อ 10 ปีก่อน โดยแพร่จากสัตว์สู่มนุษย์ และทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่า 800 ราย