เอเอฟพี - เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้อีก 1 ลูกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น วันนี้ (20) ซึ่งเป็นลูกที่ 5 ที่โสมแดงซ้อมยิงในรอบ 3 วัน โดยไม่ใส่ใจเสียงประณามจากเกาหลีใต้ และเลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน
โฆษกเสนาธิการทหารร่วมเกาหลีใต้ ออกมายืนยันข่าวการยิงขีปนาวุธลูกที่ 5 ของเปียงยาง พร้อมระบุว่า ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกาหลีเหนือกำลังทดสอบขีปนาวุธนำวิถีหรือจรวดจากฐานยิงหลายตัวหรือไม่
“เรากำลังตรวจสอบลักษณะที่แท้จริงของการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้” โฆษกเผย
หลังการยิงขีปนาวุธผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เปียงยางก็มีถ้อยแถลงตอบโต้คำวิจารณ์ที่ว่า เกาหลีเหนือต้องการจุดชนวนความตึงเครียดครั้งใหม่
“การฝึกซ้อมทางทหาร... เป็นสิทธิโดยชอบธรรมของชาติที่มีอธิปไตยซึ่งมิอาจโต้แย้งได้” คณะกรรมาธิการเพื่อการรวบรวมชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบกิจการข้ามแดนของเกาหลีเหนือ ระบุในถ้อยแถลง
“ความพยายามหาเรื่องกับการซ้อมยิงจรวดของเรา... ถือเป็นการท้าทายที่รับไม่ได้ และเป็นการยั่วยุที่ขาดสติ”
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18) เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ทั้งหมด 3 ลูกในช่วงเช้าและบ่าย ที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ก่อนจะมีลูกที่ 4 ติดตามมาในวันอาทิตย์ (19) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการฝึกซ้อมทางทหาร และแม้การทดลองยิงขีปนาวุธเช่นนี้จะมิใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับเปียงยาง แต่ก็เกิดขึ้นในช่วงที่คาบสมุทรเกาหลียังคงคุกรุ่นจากข้อพิพาทที่กลับมาร้อนแรงที่สุดในรอบหลายปี เมื่อช่วง 2-3 เดือนก่อน
รัฐบาลโซลชี้ว่า การทดสอบขีปนาวุธเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นพฤติกรรมที่ “น่าติเตียน” และ “ยั่วยุ” ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน ก็เรียกร้องให้เปียงยางระงับแผนยิงจรวดลูกต่อๆไปทันที
“ถึงเวลาแล้วที่พวกเขาจะยอมเจรจา และลดความตึงเครียดระหว่างประเทศ” บัน แถลงที่กรุงมอสโก
สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีกลับมาตึงเครียดหนัก หลังจากที่ผู้นำ คิม จอง อึน สั่งทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ จนมีผลให้โสมแดงถูกยูเอ็นคว่ำบาตรหนักกว่าเก่า เปียงยางได้ตอบโต้บทลงโทษนี้โดยขู่จะเปิดสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์กับเกาหลีใต้และสหรัฐฯแทบไม่เว้นแต่ละวัน และแม้สถานการณ์จะเริ่มผ่อนคลายลงบ้างในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ แต่โสมแดงก็ยังไม่วายประณามปฏิบัติการซ้อมรบระหว่างวอชิงตันและโซล ซึ่งพวกเขาเห็นว่าเป็นการตระเตรียมเพื่อจะรุกรานรัฐคอมมิวนิสต์
เมื่อต้นเดือนเมษายน เกาหลีเหนือเคลื่อนย้ายขีปนาวุธพิสัยกลาง “มูซูดัน” ไปไว้ที่ชายฝั่งตะวันออกของประเทศ ในลักษณะที่พร้อมจะยิงได้ทันที ทว่าต่อมาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯก็พบว่า จรวดดังกล่าวซึ่งมีพิสัยยิงไกลราว 3,500 กิโลเมตร ถูกเคลื่อนย้ายออกไปในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม