เอเอฟพี - กองทัพซีเรียซึ่งได้การสนับสนุนจากกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน สามารถบุกยึดเมืองกุซอยร์ (Qusayr) ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกบฏและเป็นทางเชื่อมกรุงดามัสกัสสู่ทะเลได้แล้ววานนี้ (19) ขณะที่ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเตือนว่าการโจมตีเมืองดังกล่าวอย่าง “ป่าเถื่อนและรุนแรง” จะทำลายความพยายามของรัสเซียและสหรัฐฯที่จะเปิดเวทีเสวนา เพื่อหาทางออกแก่วิกฤตการณ์นองเลือดซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี
สันนิบาตอาหรับเรียกประชุมฉุกเฉินในวันพฤหัสบดีนี้ (23) หลังสภาแห่งชาติซีเรีย (เอสเอ็นซี) ซึ่งเป็นองค์กรกบฏ เรียกร้องให้ชาติอาหรับร่วมกัน “ยุติการสังหารหมู่ในเมืองกุซอยร์”
ทหารซึ่งภักดีต่อ อัสซาด ใช้ทั้งเครื่องบินรบและปืนยิงถล่มกบฏในเมืองกุซอยร์เมื่อเช้ามืดวานนี้ (19) โดยทหารนายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์แห่งชาติซีเรียว่า มีกลุ่มติดอาวุธถูกสังหารไปประมาณ 100 คน ระหว่างที่ทหารเก็บกู้ระเบิดซึ่งกบฏวางไว้ตามเส้นทางเข้าเมือง
ศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีจุดยืนเอียงข้างกบฏ ยืนยันข่าวการโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินในเมืองกุซอยร์ โดย รามี อับเดล ราห์มาน ผู้อำนวยการศูนย์ฯ เผยกับเอเอฟพีว่า ฮิซบอลเลาะห์ซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายชีอะห์จากเลบานอน มีบทบาทสำคัญในการช่วยทหารซีเรียยึดเมืองยุทธศาสตร์แห่งนี้
“หากทหารซีเรียยึดเมืองกุซอยร์เอาไว้ได้ จังหวัดฮอมส์ทั้งหมดจะตกเป็นของฝ่ายรัฐบาลทันที” เขากล่าว
การต่อสู้ครั้งนี้ยังลุกลามข้ามไปยังฝั่งเลบานอน โดยสำนักข่าวแห่งชาติในกรุงเบรุตรายงานว่า มีจรวดจากซีเรียอย่างน้อย 8 ลูกถูกยิงไปตกในฝั่งเลบานอน ทว่าไม่ก่อความเสียหาย และไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
เอสเอ็นซี ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของของแนวร่วมกบฏซีเรีย ประณามการโจมตีเมืองกุซอยร์ว่าเป็นพฤติกรรมที่ “ป่าเถื่อนและรุนแรง” ทั้งยังกล่าวหาว่า อัสซาด ร่วมมือกับฮิซบอลเลาะห์ “รุกรานและกำจัดพลเมืองกุซอยร์ออกจากแผนที่”
“เราขอแจ้งให้ประเทศทั้งหลายที่กำลังหาวิธีทางการเมืองคลี่คลายปัญหาซีเรียว่า หากพวกท่านยังนิ่งเฉย และปล่อยให้มีการรุกรานเช่นนี้เกิดขึ้น การจัดประชุมหรือกระบวนการสันติภาพต่างๆ จะไร้ความหมาย”
องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า การประท้วงขับไล่รัฐบาลอัสซาด ส่งผลให้มีชาวซีเรียถูกสังหารไปแล้วกว่า 70,000 คน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทุขึ้นเมื่อกลางเดือนมีนาคม ปี 2011 ทว่าศูนย์สังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนซีเรียอ้างยอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 94,000 คน