เอเอฟพี - ผลการตรวจดีเอ็นเอเบื้องต้นยืนยันว่า ชายชาวอเมริกันซึ่งลักพาตัวหญิงสาว 3 คนไปกักขังไว้ที่บ้านในเมืองคลีฟแลนด์ มลรัฐโอไฮโอ นานถึง 10 ปี ได้ข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อรายหนึ่งจนเกิดบุตรสาววัย 6 ขวบ ซึ่งถูกช่วยเหลือออกมาได้พร้อมกับเหยื่อทั้งสามคนเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา(6) อัยการประจำรัฐโอไฮโอแถลงวานนี้(10)
เอเรียล คาสโตร วัย 52 ปี ซึ่งเป็นอดีตคนขับรถบัส ถูกตั้งข้อหาลักพาตัวหญิงสาว 3 คนในวันเวลาและสถานที่ต่างกันเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว และกักขังเธอทั้งสามไว้ในบ้านของเขา
เหยื่อทั้งสามคนได้รับอิสรภาพ เมื่อวันจันทร์(6) หลังจาก อแมนดา เบอร์รี วัย 27 ปี ร้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน ซึ่งได้เตะประตูหน้าจนแตกเป็นช่องให้เธอคลานออกมาได้พร้อมกับเด็กหญิงวัย 6 ขวบซึ่งเธอให้กำเนิดระหว่างถูกกักขัง
“สำนักงานสอบสวนคดีอาชญากรรมแห่งอัยการรัฐ (บีซีไอ) ได้รับตัวอย่างดีเอ็นเอของ คาสโตร เมื่อบ่ายวานนี้ ซึ่งผลการตรวจสอบโดยนักวิทยาศาสตร์ด้านนิติเวชในคืนที่ผ่านมายืนยันได้ว่า คาสโตร เป็นพ่อของเด็กหญิงวัย 6 ขวบ” ไมค์ ดีไวน์ อัยการประจำรัฐโอไฮโอ ระบุในถ้อยแถลง
คาสโตร ถูกตั้งข้อหาลักพาตัว จีนา เดอจีซัส วัย 23 ปี, มิเชล ไนต์ วัย 32 ปี รวมถึง เบอร์รี และบุตรสาว และยังมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราสตรีทั้งสามคนในบ้านเมืองคลีฟแลนด์ ตลอดเวลา 10 ปี
ด้าน ทิโมธี แม็คกินธี อัยการประจำเทศมนฑลคูยาโฮกา เตรียมหาช่องทางเอาผิดผู้ต้องหาเพิ่มเติม รวมถึงแจ้งข้อหาที่อาจมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต
“ผมตั้งใจจะเอาผิดทุกๆกรณี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ความรุนแรงทางเพศ, ข่มขืน, การลักพาตัว, การทำร้ายร่างกาย, พยายามฆ่า และการที่เขาพยายามทำให้หญิงสาวเหล่านี้แท้งลูก ซึ่งถือเป็นความพยายามฆาตกรรม” แม็คกินธี กล่าว
คาสโตร ถูกกล่าวหาว่าทุบตีหญิงสาว 1 ใน 3 คนเพื่อทำให้เธอแท้งลูก ระหว่างที่พวกเธอถูกขังอยู่ในบ้านของเขา ซึ่ง แม็คกินธี ใช้คำเรียกว่า “ห้องทรมานและคุกส่วนตัว”
คาสโตร ถูกศาลสั่งจำคุกเมื่อวันพฤหัสบดี(9) ด้วยวงเงินประกันตัว 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ