ตะลึงกันทั่ว! นักโทษเรือนจำพิษณุโลกเล่นเฟซบุ๊ก โพสต์รูปถูกตีตรวนหรา

พิษณุโลก - พบคนคุกเมืองสองแควเล่น “เฟซ” ผ่านเรือนจำพิษณุโลก โพสต์ข้อความต่อเนื่อง แถมล่าสุด อัปโหลดรูปตีตรวนหรา ทำสังคมออนไลน์พิษณุโลกแตกตื่นกันทั่ว ทั้งที่มือถือเป็นสิ่งต้องห้ามในเรือนจำ ขณะที่ ผบ.เรือนจำฯ โร่นำสื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง สุดท้ายพบคนโพสต์มีตัวตนจริง เป็นผู้ต้องขังชายคดีข่มขืน

วันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่า คนในสังคมออนไลน์พิษณุโลกต่างต้องตกตะลึงกันทั่ว หลังพบว่ามีผู้เล่นเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า “วินเนอร์ กะคุณนู๋มะยม รักคุณนู๋มากนะคร้าบ” ใน http://www.facebook.com/profile.php?id=100003876007411 โพสต์รูปภาพ ลักษณะคล้ายนักโทษที่ถูกล่ามโซ่ตรวน โดยระบุว่า ถูกอัปโหลดจากโทรศัพท์มือถือ และมีการปัดหมุดสถานที่ไว้ว่า เป็นที่จังหวัดพิษณุโลก และในเฟซดังกล่าว ยังมีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ข้อความที่โพสต์ล่าสุด คือ เมื่อวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา สร้างความสงสัยกันทั่วว่า เป็นนักโทษจริงหรือไม่ แถมยังใช้โทรศัพท์มือถือเล่นภายในเรือนจำได้ ทั้งๆ ที่โทรศัพท์คืออุปกรณ์ต้องห้าม

ล่าสุด บ่ายวันนี้ (27 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวได้เข้าพบ นายพงษ์มิตร ประเสริฐสกุล ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก อ.วังทอง จ.พิษณุโลก เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ซึ่งต่อมา ผบ.เรือนจำฯ ได้นำเข้าตรวจสอบภายในเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งผลการตรวจสอบก็พบว่า บุคคลในภาพถ่ายมีตัวตนอยู่จริง และเป็นผู้ต้องขังในคดีข่มขืนกระทำชำเราบุคคลที่มิใช่ภรรยาของตนอง ถูกศาลสั่งจำคุกเป็นเวลา 5 ปี และถูกคุมขังมาตั้งแต่ปี 2551 กำลังจะพ้นโทษในวันที่ 1 พ.ย นี้ ทราบชื่อบุคคลในภาพคือ นช.มาวิน สมพันธ์วงษ์ อายุ 28 ปี ถูกกักขังอยู่ในแดน 5 ของเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก เมื่อเจ้าหน้าที่เรือนจำได้ตรวจสอบเฟชบุ๊กของนักโทษชายมาวิน อีกครั้งปรากฎว่า ได้ถูกปิดลงไม่สามารถเปิดดูได้อีกแล้ว หลังจากช่วงเช้าวันเดียวกันยังเข้าเปิดดูข้อมูลได้อยู่

ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า ตนมารับตำแหน่ง ผบ.เรือนจำพิษณุโลก เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ได้วางมาตรการคุมเข้มเพื่อให้เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกเป็นเรือนจำที่ขาวสะอาด ซึ่งได้กำหนดให้มีการบุกจู่โจมตรวจเข้มทุกเรือนนอนเป็นระยะไม่ให้ผู้ต้องขังรู้ตัว จนสามารถตรวจค้นยึดยาบ้าได้พันกว่าเม็ด ยาไอซ์จำนวนหลายกรัม อุปกรณ์การเสพ อุปกรณ์สื่อสาร จำนวน 1 เครื่อง

ส่วนเรื่องการป้องกันการโยนสิ่งของเรือนจำก็มีการตรวจสอบจุดบอด จากนั้นก็ติดตั้งแห หรือตาข่าย เพื่อป้องกันการโยนสิ่งของเข้ามาในเรือนจำ ในช่วงกลางดึกก็จัดเวรยามตรวจสอบ และกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด แต่ที่ผ่านมาก็พบว่า ยังมีการลักลอบโยนอุปกรณ์มือถือเข้ามาอีก ซึ่งแม้เรือนจำพิษณุโลก มีอุปกรณ์กวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือจุดย่อย ทำงานกวนสัญญาณโทรศัพท์มือถือเป็นช่วงๆ แต่ไม่สามารถตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือได้เลย เหมือนเครื่องตัดสัญญาณของเรือนจำกลางพิษณุโลก

นายพงษ์มิตร กล่าวอีกว่า การที่ต้องดูแลพื้นที่ 45 ไร่ จำนวนผู้ต้องขังที่มีจำนวนมากเมื่อเทียบกับจำนวนของผู้คุม ทำให้การดูแลป้องกันเป็นเรื่องยาก รวมทั้งช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เรือนจำจังหวัดพิษณุโลกมีเพียงรักษาการผู้บัญชาการเรือนจำ ทำให้การปฏิบัติงานค่อนข้างยาก และอาจมีการลักลอบนำสิ่งของทั้งยาเสพติด อุปกรณ์สื่อสาร เข้ามาในเรือนจำ แต่หลังจากนี้ก็พยายามวางมาตรการ และปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เรือนจำพิษณุโลกเป็นเรือนจำสีขาว โดยต้องตรวจค้นหลายครั้งและต้องใช้เวลาอีกช่วงหนึ่ง

“ประเด็นที่มีผู้ต้องขังลักลอบเล่นเฟซบุ๊กนั้น ขณะนี้ก็ได้ทำการตรวจสอบ และจะลงโทษทางวินัย และในช่วงเย็นนี้ก็ได้จัดกำลังเข้าจู่โจมตรวจค้นเรือนจำอีกครั้งหนึ่ง”