เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพซีเรียอิสระ (เอฟเอสเอ) หนึ่งในกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่เข้มแข็งที่สุด และเป็นแกนนำสำคัญในการทำสงครามกลางเมืองขับไล่รัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด กำลังประสบปัญหาสำคัญ หลังจากกำลังพลของตนกว่า 1 ใน 4 ได้แปรพักตร์หันไปเข้าร่วมกับนักรบอิสลามิสต์ “อัล นุสรา” ที่ถูกทางการสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเป็น “องค์กรก่อการร้าย”
รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวภายในกองทัพซีเรียอิสระ (เอฟเอสเอ) ซึ่งก่อตั้งเมื่อปลายเดือนกรกฎาคม ปี 2011 เพื่อโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด และเคยมีนักรบในสังกัดสูงถึง 140,000 นาย กำลังประสบปัญหาสูญเสียกำลังพลมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยการสูญเสียดังกล่าวมิได้เกิดจากการทำสงครามกลางเมืองกับรัฐบาลซีเรีย แต่เกิดจากการที่กำลังพลของเอฟเอสเอกว่า 1 ใน 4 ได้แปรพักตร์หันไปเข้าเป็นสมาชิกของกลุ่มแนวร่วมหัวรุนแรง “อัล นุสรา” ที่มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้าย “อัลกออิดะห์” จนส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการสู้รบของเอฟเอสเอ
อาบู อาเหม็ด อดีตครูสอนหนังสือซึ่งปัจจุบันเป็นนักรบระดับผู้บัญชาการคนหนึ่งของเอฟเอสเอ ในสมรภูมิใกล้เมืองอะเลปโป ออกมายอมรับว่า กำลังพลจำนวนมากของเอฟเอสเอต่างหันไปเข้าร่วมกับพวกอัล นุสรา เนื่องจากพวกอัล นุสรามีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ดีกว่า อีกทั้งยังมีเป้าหมายในการต่อสู้ที่ชัดเจนมากกว่า นั่นคือปลดปล่อยซีเรียจากรัฐบาลบาชาร์ อัล อัสซาด และสถาปนาการปกครองในรูปแบบของรัฐอิสลามอันเข้มงวดขึ้นแทนที่ ตรงข้ามกับการต่อสู้ของเอฟเอสเอที่มีจุดมุ่งหมายเพียงเพื่อโค่นล้มรัฐบาลอัสซาดเท่านั้น แต่ไม่มีแผนระยะยาวสำหรับซีเรีย อีกทั้งยังต้องพึ่งพาการสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์จากต่างประเทศเป็นหลักทั้งจากซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และสหรัฐฯ
ทั้งนี้ แนวร่วมอัล นุสราภายใต้การนำของอาบู โมฮัมหมัด อัล โกลานี เพิ่งเริ่มก่อตั้งกลุ่มเมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว โดยมีกำลังพลในช่วงเริ่มต้นเพียงไม่กี่พันคน แต่สามารถขยายกำลังเป็นมากกว่า 10,000 คนภายในระยะเวลาเพียง 1 ปี โดยกลุ่มอัล นุสราซึ่งมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำด้วยเหตุผลที่ว่ามีเป้าหมายที่คุกคามต่อผลประโยชน์ของสหรัฐฯ อิสราเอล และประเทศในโลกตะวันตก
