เอเอฟพี - น้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้ (1 พ.ค.) ดิ่งลงแรง จากสัญญาณระลอกใหม่ที่บ่งชี้ถึงภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอในอเมริกาและจีน ขณะที่ปัจจัยดังกล่าวประกอบกับภาวะเงินเฟ้อที่น่ากังวลก็ฉุดทองคำลงหนักกว่า 25 ดอลลาร์
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ ลดลง 2.43 ดอลลาร์ ปิดที่ 91.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 2.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันวานนี้ (1 พ.ค.) มีขึ้นหลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ เผยว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เมษายน เพิ่มขึ้นถึง 6.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 30 ปีหรือตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลในปี 1982
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกซ้ำเติมจากข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังจากสหรัฐฯ และจีน สองชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก
ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ในรอบเดือนเมษายน ภาคเอกชนของอเมริกามีการจ้างงานแค่ 119,000 ตำแหน่ง ต่ำที่สุดในรอบ 7 เดือน ขณะเดียวกันสำนักงานจัดการด้านอุปทาน (ไอเอสเอ็ม) ก็เผยว่าเดือนที่ผ่านมากิจกรรมการผลิตของประเทศก็ชะลอตัวเช่นกัน โดยดัชนีการจัดซื้อภาคโรงงาน อยู่ที่ 50.7 จุด ลดลงจาก 51.3 จุด ในเดือนมีนาคม กระนั้นด้วยตัวเลขที่เหนือ 50 จุด ก็ยังถือว่าเติบโตอยู่
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทางการจีนเปิดเผยข้อมูลที่บ่งถึงภาวะชะลอตัวของภาคการผลิต โดยสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน เผยดัชนีการจัดซื้อภาคโรงงานเดือนเมษายน อยู่ที่ระดับ 50.6 จุด ลดจากเดือนมีนาคม ที่อยู่ในระดับ 50.9 จุด สะท้อนให้เห็นว่าการฟื้นตัวในระดับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจแดนมังกรยังไม่แข็งแกร่งเพียงพอ
ปัจจัยข้างต้นก็ฉุดให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (1 พ.ค.) ขยับลงอย่างหนัก ขณะที่ธนาคารกลางอเมริกา (เฟด) ยังต้องคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกต่อไป
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 139.23 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,700.57 จุด แนสแดค ลดลง 29.66 จุด (0.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,299.13 จุด ขณะที่เอสแอนด์พี ลดลง 14.85 จุด (0.93 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,582.72 จุด
ด้านราคาทองคำวานนี้ (1 พ.ค.) กลับมาปิดลบอย่างหนักหน่วง หลังปรากฏสัญญาณว่าภาวะเงินเฟ้อที่น่ากังวลของอเมริกา รวมถึงข้อมูลการจ้างงานที่ลดลงอย่างฮวบฮาบในเดือนเมษายน โดยทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ ลดลง 25.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,446.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
