เอเอฟพี - ผู้ใช้แรงงานชาวบังกลาเทศหลายหมื่นคนเดินขบวนประท้วงเนื่องในวันแรงงาน 1 พฤษภาคม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลลงโทษประหารชีวิตเจ้าของโรงงานเสื้อผ้าชานกรุงธากาที่พังถล่มลงมาเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่ยืนยันล่าสุดพุ่งเกิน 400 ราย และอาจขยับถึงหลัก 500 ในอีกไม่กี่วันนี้
ผู้ประท้วงชาวบังกลาเทศในกรุงธากาชูป้ายและธงสีแดง พร้อมร้องตะโกนให้รัฐ “แขวนคอฆาตกร แขวนคอเจ้าของโรงงาน” โดยการเดินขบวนประท้วงลักษณะนี้จะมีขึ้นตามเมืองใหญ่ๆทั่วประเทศ
กัมรุล อานัม แกนนำสหภาพแรงงานสิ่งทอและเครื่องนุ่มห่มบังกลาเทศ ระบุว่า คนงานทุกคนรู้สึกโกรธแค้นที่เพื่อนร่วมอาชีพถูก “ฆาตกรรม” ในเหตุการณ์ตึกถล่มที่เมืองซาวาร์ เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา
“เราต้องการให้รัฐบาลลงโทษคนผิดสถานหนักที่สุด” เขากล่าว
นอกจากการประท้วงของแรงงานในประเทศแล้ว รัฐบาลบังกลาเทศยังต้องเผชิญแรงกดดันจากนานาชาติ ซึ่งต้องการเห็นมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีขึ้นในอุตสาหกรรมสิ่งทอ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงกับโรงงานเสื้อผ้าในบังกลาเทศมาแล้วหลายแห่ง
เมื่อค่ำวานนี้(30) สหภาพยุโรปมีถ้อยแถลงว่า จะหามาตรการสนับสนุนการดำเนินงานที่ได้มาตรฐานของอุตสาหกรรมสิ่งทอในบังกลาเทศ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตเสื้อผ้าแบรนด์ตะวันตกหลายยี่ห้อ เช่น Primark, Benetton และ Mango
เจ้าหน้าที่กู้ภัยและรถเครนยังคงขุดค้นซากอาคารโรงงานสูง 8 ชั้นเพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา โดยล่าสุดมีรายงานจากโฆษกกองทัพบังกลาเทศว่า ยอดผู้เสียชีวิตขยับขึ้นเป็น 402 ราย และยังคงมีผู้สูญหายอีก 149 คน
ตำรวจได้จับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องแล้วทั้งสิ้น 8 ราย ซึ่งทั้งหมดถูกตั้งข้อหา “กระทำการโดยประมาท ส่งผลให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ในจำนวนนี้ยังรวมถึงเจ้าของอาคาร รานา พลาซา และทีมวิศวกรที่อนุญาตให้ใช้อาคารต่อไปหลังจากที่ตรวจพบรอยร้าว
โรงงานผลิตเครื่องนุ่งห่มในบังกลาเทศราว 4,500 แห่ง ส่วนใหญ่ปิดดำเนินงานมาตั้งแต่วันพุธที่แล้ว(24) และเริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งมีอุตสาหกรรมสิ่งทอมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ
นายกรัฐมนตรี ชัยค์ ฮาซินา แห่งบังกลาเทศ แถลงต่อรัฐสภาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา(30) โดยวิงวอนให้แรงงานสิ่งทอกลับมาทำงานตามปกติ พร้อมตำหนิเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นกับโรงงานสิ่งทอหลายแห่งในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
“ดิฉันขอให้พนักงานทุกท่านสงบสติอารมณ์ และกลับมาทำงานของท่านเพื่อให้โรงงานสามารถเดินต่อไปได้ มิเช่นนั้นท่านเองจะเป็นฝ่ายตกงานในที่สุด” นายกฯหญิง กล่าว