จาการ์ตาโกลบ - อินโดนีเซียแถลงจะเริ่มต้นผลิตเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ (โดรน) ล็อตใหญ่ในปีนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าการผลิตและพัฒนาโดรนระดับท้องถิ่นของจาการ์ตา เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย ที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ดีร์ฆันตารา อินโดนีเซีย บริษัทผู้ผลิตอากาศยานสัญชาติอินโดนีเซีย จะเป็นผู้ผลิตเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับเหล่านั้นให้กับกองทัพอากาศแดนอิเหนาในปีนี้ โดยใช้เทคโนโลยีที่พัฒนาโดยหน่วยงานวิจัยและเทคโนโลยีประยุกต์แห่งอินโดนีเซีย (บีพีพีที)
นายมาร์ซาน อาซิซ อิสกันดาร์ ผู้อำนวยการสถาบันบีพีพีที เผยว่า หน่วยงานของเขาเริ่มพัฒนา Wulung อากาศยานไร้คนขับมาตั้งแต่ปี 2004 ภายใต้ความร่วมมือกับ ดีร์ฆันตารา อินโดนีเซีย อันเป็นรัฐวิสาหกิจและแอลอีเอ็น อินดรัสตรี และเผยว่าพร้อมแล้วสำหรับผลิตเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับล็อตใหญ่ในปีนี้ เพื่อเติมเติมความปรารถนาแก่ฝูงบินของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
“ด้วยเทคโนลียีที่สร้างสรรค์ขึ้นเองของอินโดนีเซีย เราคาดหมายว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จ มีหุ้นส่วนจำนวนมากที่ร่วมออกแบบ ผลิต ออกทุน วางโครงการ วิจัยและพัฒนานวัตกรรมนี้” มาร์ซานกล่าวระหว่างลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างบีพีพีที ดีร์ฆันตารา อินโดนีเซีย และแอลอีเอ็น อินดัสตรี เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พิธีที่มีเหล่าตัวแทนจากกระทรวงกลาโหมเข้าร่วมด้วย
ด้านดาร์ลิส ปันการิบวน ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมเผยว่าเครื่องบินสอดแนมล็อตดังกล่าวจะถูกประกอบขึ้น ณ โรงงาน 3 แห่งของกองทัพอินโดนีเซีย “นอกเหนือจากบินตรวจการณ์แล้ว จุดประสงค์ระยะยาวของเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับของเราก็คือยังสามารถใช้สำหรับโจมตีได้ด้วย”
เครื่องบินสอดแนมไร้คนขับ Wulung มีน้ำหนัก 60 กิโลกรัม แต่สามารถรองรับน้ำหนักได้เพิ่มเติมอีก 25 กิโลกรัม และมีระยะระหว่างปลายปีกทั้งสองข้าง 6.34 เมตร
ทั้งนี้ Wulung สามารถบินได้นานสุด 4 ชั่วโมง ณ ระดับการบินสูงสุด 3,658 เมตรเหนือพื้นดิน ขณะเดียวกันมันยังติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถบันทึกภาพส่งมายังสถานีควบคุมภาคพื้นแบบเรียลไทม์