xs
xsm
sm
md
lg

“เพนตากอน” โดนจวกเละหลังทุ่มเงิน 300 ล้าน เช่าดาวเทียมจีนมาใช้แรมปี โดยไม่หวั่นความลับทางทหารรั่ว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดาวเทียม “Apstar-7 ” ของจีน
เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) กำลังตกเป็นเป้าการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหลังออกมายอมรับว่าใช้ “ดาวเทียมพาณิชย์ของจีน” ในการติดต่อสื่อสารภายในกองบัญชาการภาคพื้นแอฟริกา (Africa Command) จริง ทั้งที่ตระหนักดีว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจทำให้รัฐบาลจีนล่วงรู้ความลับทางทหารของสหรัฐฯ ได้ก็ตาม

รายงานข่าวระบุว่า พ.ท.หญิง โมนิกา เมทัช โฆษกเพนตากอนได้ออกมาแถลงยอมรับว่า ทางกระทรวงฯ ได้ขอเช่าดาวเทียม “Apstar-7” ของจีนจริง เพื่อตอบสนองความต้องการในการสื่อสารด้วยคลื่นความถี่พิเศษและความจำเป็นในการติดต่อสื่อสารครอบคลุมพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้น ตามที่กองบัญชาการภาคพื้นแอฟริกาของสหรัฐฯ ได้ร้องขอตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว

การยอมรับของเพนตากอนในครั้งนี้ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เนื่องจากเพนตากอนตัดสินใจทำสัญญาเช่าดาวเทียวดวงดังกล่าวทั้งที่ทราบดีว่า ดาวเทียมดวงนี้ดำเนินการโดยบริษัท เอพีที แซทเทลไลท์ โฮลดิงส์ ที่มีเจ้าของกิจการที่แท้จริงคือองค์การอวกาศและเทคโนโลยีของรัฐบาลปักกิ่ง แม้ที่ตั้งของบริษัทจะอยู่ในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงก็ตาม

ไมเคิล เดนนิส รอเจอร์ส สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรครีพับลิกันจากมลรัฐแอละแบมาในฐานะประธานคณะกรรมาธิการด้านอาวุธของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบโครงการที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอวกาศของกองทัพ ออกโรงตำหนิการตัดสินใจของเพนตากอนว่า “ขาดความยั้งคิด” และกำลังทำให้ข้อมูลลับทางการทหารและความมั่นคงของชาติตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงต่อการรั่วไหลไปยังปักกิ่ง แม้ทางเพนตากอนจะพยายามยืนยันว่ามีเทคโนโลยีพิเศษในการป้องกันข้อมูลรั่วไหลขณะใช้บริการดาวเทียมของจีนอยู่ก็ตาม

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ทางเพนตากอนได้ทำสัญญาเช่าดาวเทียมดวงดังกล่าวนาน 1 ปีในวงเงิน 10.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 310 ล้านบาท) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยเป็นการทำสัญญาผ่านทางบริษัทสัญชาติอเมริกันอีกแห่งหนึ่งที่มีชื่อว่า “อาร์เทล” ซึ่งมีฐานอยู่ในมลรัฐเวอร์จิเนีย และสัญญาเช่าที่ทำไว้ก็กำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 14 พฤษภาคมปีนี้ โดยทางเพนตากอนมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะต่อสัญญาเช่าออกไปอีก 3 ปีหรือไม่ก็ได้

การออกมายอมรับของเพนตากอนต่อกรณีเช่าดาวเทียมของจีนมาใช้ทางทหาร กลายเป็นประเด็นร้อนล่าสุดที่คุกคามความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางการสหรัฐฯ เพิ่งออกรายงานประจำปีเกี่ยวกับความมั่นคงทางไซเบอร์ซึ่งระบุว่า จีนเป็นภัยคุกคามหลักทางไซเบอร์ต่อสหรัฐฯ และมีแฮกเกอร์จากแดนมังกรจำนวนมากก่อเหตุโจมตีเครือข่ายคอมพิวเตอร์ทางทหารและหน่วยงานความมั่นคง รวมถึงบริษัทผลิตอาวุธสัญชาติอเมริกันหลายแห่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ทางการจีนยืนกรานปฏิเสธ

ที่ทำการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน)

กำลังโหลดความคิดเห็น