จนท.สาธารณสุขสหรัฐฯ แนะคนวัยผู้ใหญ่ตรวจ “เชื้อเอดส์” เป็นประจำ

รอยเตอร์ - คณะทำงานด้านสาธารณสุขในสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประชากรอเมริกันอายุระหว่าง 15-65 ปี ตรวจเชื้อเอชไอวีเป็นประจำ ไม่ว่าจะมีพฤติกรรมเสี่ยงหรือไม่ก็ตาม ซึ่งจะช่วยให้ความรู้สึกกระอักกระอ่วนที่คนทั่วไปมีต่อการตรวจเชื้อเอชไอวีลดน้อยลง

ข้อเสนอแนะจากคณะทำงานพิเศษเพื่อการป้องกันโรค (U.S. Preventive Services Task Force - USPSTF) ซึ่งประกอบด้วยนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ สอดคล้องกับคำแนะนำของสำนักงานควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ที่แนะให้พลเมืองอายุระหว่าง 15-65 ปี ตรวจเชื้อโรคเอดส์อย่างสม่ำเสมอ

ก่อนหน้านี้ USPSTF เคยประกาศคำแนะนำเมื่อปี 2005 ให้บุคคลที่มีพฤติกรรมเสี่ยงตรวจเชื้อเอชไอวีเป็นประจำ

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ข้อเสนอแนะล่าสุดซึ่งตีพิมพ์ลงจดหมายเหตุประจำปีอายุรศาสตร์ (Annals of Internal Medicine) จะทำให้การตรวจเชื้อเอชไอวีถูกรวมไว้ในกฎหมายประกันสุขภาพถ้วนหน้า (Affordable Care Act) ของประธานาธิบดี บารัค โอบามา ซึ่งกำหนดให้บริษัทประกันต้องจ่ายค่าบริการป้องกันโรคที่ USPSTF เสนอ

ปัจจุบันนี้ กฎหมายประกันสุขภาพเพียงแนะนำการตรวจเชื้อเอชไอวีสำหรับพลเมืองกลุ่มเสี่ยงเท่านั้น

“นั่นก็เป็นไปตามคำแนะนำของ USPSTF เมื่อปี 2005 แต่หลังจากนี้ผมหวังว่าจะมีการปรับให้ครอบคลุมพลเมืองวัยผู้ใหญ่ทุกคนด้วย” ดร.เจฟฟรีย์ เลนน็อกซ์ อาจารย์จากวิทยาลัยแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเอมอรี และหัวหน้าฝ่ายโรคติดต่อประจำโรงพยาบาลเกรดี เมมโมเรียล เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจียกล่าว

แม้สหรัฐฯ จะออกมาตรการป้องกันเพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อเอชไอวีอย่างต่อเนื่องในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันยังมีชาวอเมริกันได้รับเชื้อใหม่ปีละราว 50,000 คน

สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ ประเมินว่า ขณะนี้มีพลเมืองอเมริกันติดเชื้อเอชไอวีราว 1,200,000 คน แต่ร้อยละ 20-25 ยังไม่ทราบว่าตนเองได้รับเชื้อ