เอเอฟพี - สองพี่น้องเชื้อสายเชเชน วางแผนโจมตี “ไทมส์สแควร์” ตามหลังปฏิบัติการวางระเบิดโจมตีนองเลือด “บอสตัน มาราธอน” ที่คร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ 3 รายบาดเจ็บหลายร้อยคน เคราะห์ดีที่ผู้พี่ถูกวิสามัญฯ ส่วนคนน้องถูกรวบตัวได้เสียก่อน จากการเปิดเผยของไมเคิล บลูมเบิร์ก นายกเทศมนตรีนิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี (25)
บลูมเบิร์ก อ้างคำบอกเล่าของ เรย์ เคลลี ผู้บัญชาการตำรวจนิวยอร์ก ระบุว่า นายทาเมอร์ลัน และโซการ์ ซาเนฟ ได้หารือกันถึงความเป็นไปได้ที่จะโจมตีนิวยอร์ก ระหว่างที่ทั้งสองขับรถไปรอบๆ แถบชานเมืองบอสตัน เพื่อหลบหนีการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่
“ข้อมูลที่ได้รับจากสำนักงานสืบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) น่าสยดสยองและเตือนความทรงจำให้ระลึกอยู่เสมอว่าเรายังคงเป็นเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้าย” บลูมเบิร์กแถลงกับผู้สื่อข่าว “เมื่อคืนที่ผ่านมาเราได้รับแจ้งจากเอฟบีไอว่า มือโจมตีที่รอดชีวิต ยอมเผยว่านิวยอร์กซิตี อยู่ในเหล่ารายชื่อเมืองที่เป็นเป้าหมายลำดับถัดไป”
นายบลูมเบิร์กเผยว่า นายโซการ์ ซาเนฟ ให้การต่อทีมสืบสวนของเอฟบีไอ จากเตียงคนไข้ของโรงพยาบาลว่าเขาและพี่ชายมีความตั้งใจจะขับรถไปยังนิวยอร์ก และวางระเบิดถล่มไทมส์สแควร์อีกแห่ง
ทาเมอร์ลัน ซาร์เนฟ ถูกวิสามัญฆาตกรรมในเหตุดวลปืนกันระหว่างปฏิบัติการไล่ล่าของตำรวจ 4 วัน หลังจากเขาและน้องชายร่วมกันวางระเบิดถล่มบอสตัน มาราธอน จนมีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บ 264 คน ส่วนโซการ์ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเวลานี้กำลังนอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบอสตัน
คำให้การที่ถูกเปิดเผยออกมาเมื่อวันพฤหัสบดี (25) แสดงถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปโดยสิ้งเชิงของนายโซการ์ หลังจากก่อนหน้านี้ในวันพุธ( 24) ได้บอกกับเจ้าหน้าที่สืบสวนว่าเขากับน้องชายวางแผนเดินทางไปนิวยอร์กเพื่อร่วมงานปาร์ตี้เท่านั้น
“จากการซักถามภายหลัง นายโซการ์ยอมสารภาพว่าเขาและพี่ชายตัดสินอย่างแน่นอนว่าไทมส์สแควร์คือเป้าหมายต่อไป” เคลลีกล่าวระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายบลูมเบิร์ก “พวกเขาจะขับรถไปยังไทมส์สแควร์ในคืนวันดียวกัน พวกเขาหารือถึงเรื่องนี้ระหว่างที่ขับรถเมอร์เซเดสที่ปล้นมาไปรอบๆ เมือง หลังจากลงมือยิงตำรวจของสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (เอ็มไอที) ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา”
เคลลีกล่าวต่อว่า “อย่างไรก็ตาม แผนนี้มีอันต้องล่มหลังพวกเขาทราบว่าแก๊สรถยนต์ใกล้หมดถัง จึงได้สั่งคนขับหยุดรถที่สถานีบริการแก๊สที่อยู่ใกล้ๆ ทว่าคนขับก็ใช้โอกาสนี้หลบหนีและแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่” ทั้งนี้โทรศัพท์แจ้งความของเจ้าของรถผู้ถูกจี้นี้เองนำมาซึ่งปฏิบัติการปิดเมืองล่าที่มีใช้กำลังตำรวจหลายพันนาย
กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (22) ว่า ได้ตั้งข้อหาต่อโซการ์ ซาร์เนฟ ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดถล่มบอสตัน มาราธอน ใช้อาวุธอานุภาพทำลายล้างสังหารผู้คนและมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตหากถูกพบว่ามีความผิดจริง