เอเอฟพี - รัฐบาลเวเนซุเอลาขู่ใช้มาตรการปิดกั้นการค้าและพลังงานกับสหรัฐฯ หากถูกวอชิงตันคว่ำบาตรเพื่อบีบให้มีการนับคะแนนใหม่ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ นิโคลัส มาดูโร ทายาทการเมืองของอดีตประธานาธิบดี อูโก ชาเบซ เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปอย่างฉิวเฉียด
ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ มาดูโร ลั่นวาจาจะไม่ทรยศต่อการปฏิวัติสังคมนิยมของชาเบซ และยืนยันว่า “จะไม่มีการทำสัญญาใดๆ กับพวกชนชั้นนายทุน”
มาดูโรกล่าวหาว่าสหรัฐฯ ใช้อิทธิพลข่มขู่เวเนซุเอลา และรับรองคำขู่ของรัฐมนตรีต่างประเทศ เอเลียส เคาอา ซึ่งกล่าวไว้ขณะเยือนเอกวาดอร์ว่า “หากสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ หรือวิธีคว่ำบาตรรูปแบบอื่นๆ ก็ตาม เราจะตอบโต้ด้วยคำสั่งด้านการพาณิชย์, พลังงาน, เศรษฐกิจ และการเมือง ที่เราเห็นว่าจำเป็นเช่นกัน”
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เรียกร้องให้เวเนซุเอลายืนยันความโปร่งใสของผลเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 เมษายนด้วยการนับคะแนนใหม่ และจนบัดนี้วอชิงตันก็ยังปฏิเสธที่จะรับทราบผลเลือกตั้งอย่างเป็นทางการในเวเนซุเอลา ซึ่งมาดูโรได้คะแนนเหนือกว่า เอ็นริเก คาปริเลส ผู้สมัครจากฝ่ายค้านไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ข่าวลือเรื่องการทุจริตเลือกตั้งเป็นชนวนนำไปสู่การประท้วงรุนแรง ซึ่งมีผู้สังเวยชีวิตไปแล้ว 8 ราย
กระบวนการตรวจสอบผลเลือกตั้งจะเริ่มขึ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่รองประธานสภาการเลือกตั้งแห่งชาติยืนยันเมื่อวันเสาร์ (20) ว่าจะไม่มีการพลิกคำตัดสินชัยชนะของมาดูโรอย่างแน่นอน
สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นภาคภาษาสเปนรายงานว่า โรเบิร์ต เจค็อบสัน ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เอ่ยวิจารณ์ว่าสภาการเลือกตั้งเวเนซุเอลาสรุปผลเลือกตั้งเร็วเกินไป ทั้งที่พลเมืองราวครึ่งประเทศยังไม่เชื่อถือผลการนับคะแนน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสหรัฐฯ จะมีมาตรการคว่ำบาตรเพื่อกดดันหรือไม่หากรัฐบาลเวเนซุเอลาไม่ยอมนับคะแนนใหม่ เจค็อบสันก็ตอบว่ายังไม่สามารถระบุแน่นอนได้
เวเนซุเอลามีปริมาณน้ำมันดิบสำรองสูงที่สุดในโลก และมีกำลังผลิตราว 2,300,000-3,000,000 บาร์เรลต่อวัน รายได้หลัก 90% ของประเทศมาจากการส่งออกน้ำมัน
สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันจากเวเนซุเอลาราว 900,000 บาร์เรลต่อวัน