รอยเตอร์ - เกิดการปะทะระหว่างกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเวเนซุเอลากับตำรวจในกรุงการากัส เมื่อวานนี้ (15) หลังจากที่ นิโคลัส มาดูโร ทายาทการเมืองของอดีตประธานาธิบดีอูโก ชาเบซ ถูกประกาศให้เป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14) และปฏิเสธที่จะนับคะแนนใหม่ตามคำเรียกร้องฝ่ายค้านที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตเลือกตั้งเกิดขึ้น
ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาใส่กลุ่มวัยรุ่นผู้ประท้วงในย่านใจกลางกรุงการากัส หลังจากที่ เอ็นริเก คาปริเลส ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากฝ่ายค้าน ประกาศไม่ยอมรับชัยชนะอันฉิวเฉียดของ มาดูโร และขอให้ประชาชนที่สนับสนุนตนออกมาแสดงพลังประท้วงอย่างสันติ
“สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้คือการโกง การโกหกปลิ้นปล้อน ฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายค้าน และพวกเขาก็รู้ดี” ไบรอันด์ อัลวาร์ หนึ่งในผู้ประท้วงซึ่งเข้าตะลุมบอนกับเจ้าหน้าที่ กล่าว
มาดูโร วัย 50 ปี ซึ่งเป็นอดีตคนขับรถบัส เรียกร้องให้ประชาชนที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาชุมนุมอย่างสันติเช่นกันในวันนี้ (16) โดยตนเองจะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งผู้นำประเทศในวันศุกร์ (19) ซึ่งจะทำให้การประท้วงของฝ่ายค้านเป็นแค่เพียงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น
แหล่งข่าวจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า คาปริเลส เป็นฝ่ายชนะเลือกตั้งอย่างแท้จริงด้วยคะแนนเสียงกว่า 300,000 และพบหลักฐานการทุจริตอีกราว 3,200 กรณี ตั้งแต่เรื่องที่มีผู้ใช้บัตรประชาชนปลอมมาลงคะแนน หรือการข่มขู่อาสาสมัครตามหน่วยเลือกตั้ง
คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศให้ มาดูโร เป็นฝ่ายชนะอย่างเป็นทางการวานนี้ (15) ด้วยคะแนนโหวตร้อยละ 50.8 ส่วน คาปริเลส นั้นได้คะแนนต่ำกว่าเพียงฉิวเฉียดร้อยละ 49.0
“เสียงส่วนใหญ่ก็ต้องถือเป็นเสียงส่วนใหญ่ เราต้องเคารพหลักการประชาธิปไตย... ฝ่ายค้านไม่สามารถก่อการโจมตีเพื่อทำลายเจตนารมณ์ของมหาชนได้” มาดูโร ซึ่งถูก ชาเบซ เลือกให้เป็นผู้สืบทอดแนวทางปฏิวัติสังคมนิยม ก่อนที่ตนเองจะเสียชีวิตลงในวันที่ 5 มีนาคมที่ผ่านมากล่าว