เอเอฟพี - อาเหม็ด โมอาซ-อัล คอติบ ผู้นำฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ประกาศลาออกจากตำแหน่งอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากไม่พอใจที่ทั่วโลกยังคงนิ่งเฉยต่อสงครามนองเลือดในซีเรีย ขณะที่ทหารฝ่ายรัฐบาลประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด เริ่มรุกคืบและยึดคืนพื้นที่จากฝ่ายกบฏได้แล้วหลายส่วน
ทหารที่ยังภักดีต่อ อัสซาด ยึดคืนพื้นที่รอบกรุงดามัสกัส รวมถึงเมืองใกล้พรมแดนเลบานอนที่เคยตกอยู่ในมือกบฎก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มนักสิทธิมนุษยชนอ้างว่า พบศพจำนวนมากในสภาพแหลกเหลวจากผลของการต่อสู้อย่างดุเดือด
ประกาศลาออกครั้งล่าสุดของคอติบ ทำให้องค์กรกบฎต้องสั่นสะเทือนอีกระลอก หลังจากเมื่อ 1 เดือนก่อนเขาก็เคยขู่สละตำแหน่งมาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความไม่พอใจที่ กัสซัน ฮิตโต ซึ่งเป็นคนจากกลุ่มภราดรภาพมุสลิม ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีปกครองดินแดนซีเรียส่วนที่กบฎครอบครอง
“ผมยืนยันได้ว่าการลาออกของคอติบครั้งนี้ถือเป็นที่สุด” มาร์วัน ฮัจโจ จากกลุ่มแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย (National Coalition) ให้สัมภาษณ์หลังสิ้นสุดการประชุม เฟรนด์ ออฟ ซีเรีย ที่นครอิสตันบูล เมื่อวันเสาร์ (20)
แหล่งข่าวภายในองค์กรกบฎเผยว่า แกนนำกบฏเริ่มมีการปรึกษาหารือเพื่อคัดเลือกบุคคลที่จะมาแทนตำแหน่งของ คอติบ แล้ว
คอติบโพสต์ข้อความสั้นๆ ลงในเฟซบุ๊กของเขาว่า “เมื่อนกถูกขังอยู่ในกรง มันย่อมไม่มีอิสระและกลายเป็นอัมพาต เมื่อวานนี้ผมได้หนีออกจากคุกแห่งความหลอกลวงที่กักขังผมไว้แล้ว”
ฮัจโจ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการสมาชิกแนวร่วมแห่งชาติซีเรีย เปิดเผยว่า คอติบ ตัดสินใจเช่นนี้เพราะรู้สึกว่าตนเอง “ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่เพื่อช่วยเหลือชาวซีเรียได้อย่างแท้จริง”
“นานาประเทศและกลุ่ม เฟรนด์ ออฟ ซีเรีย ควรจัดส่งอาวุธให้ฝ่ายกบฎได้ป้องกันตนเอง” ฮัจโจ ระบุ
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี ซึ่งเดินทางไปร่วมประชุมที่นครอิสตันบูล ระบุว่า สหรัฐฯยินดีจะมอบความช่วยเหลือแก่กบฎซีเรียเพิ่มเติมอีก 123 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงยุทธภัณฑ์ต่างๆที่มิใช่อาวุธ แต่ยังคงไม่รับปากที่จะติดอาวุธให้แก่กบฏอยู่เช่นเดิม เนื่องจากเกรงว่าอาวุธเหล่านั้นจะตกไปถึงมือเครือข่ายอัลกออิดะห์ซึ่งแฝงตัวอยู่ในสมรภูมิซีเรีย
นักเคลื่อนไหวฝ่ายกบฎชี้ว่า กองทัพของรัฐบาลซีเรียมีกลุ่มมุสลิมชีอะห์ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนคอยหนุนหลังอยู่ และเมื่อวานนี้ (21) ก็สามารถยึดเมืองกุซอยร์ใกล้ชายแดนเลบานอนคืนจากฝ่ายกบฏได้แล้ว