เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - กรมตำรวจดูไบสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการทุ่มเงินมหาศาลจัดซื้อสุดยอดซูเปอร์คาร์ “ลัมบอร์กินี อาเวนตาดอร์” จากอิตาลีมาใช้เป็นรถสายตรวจสำหรับไล่ล่าคนร้าย ตั้งเป้าดูไบเป็น “เมืองปลอดเหล่าร้าย”
รายงานข่าวล่าสุดจากนครดูไบในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระบุว่ากองกำลังตำรวจดูไบ (ดีพีเอฟ) ประกาศเปิดตัวซูเปอร์คาร์สุดหรู “ลัมบอร์กินี อาเวนตาดอร์” ที่เพิ่งถูกจัดซื้อจากประเทศอิตาลี สำหรับใช้เป็นรถของตำรวจสายตรวจ โดยราคาของรถสายตรวจลัมบอร์กินีดังกล่าวตกอยู่ที่คันละประมาณ 460,350 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 13.4 ล้านบาท
ด้าน พล.ต.อ.คามิส มัตเตร์ อัล มูไซนา รองผู้อำนวยการกองกำลังตำรวจดูไบระบุว่า รถสายตรวจชุดใหม่ที่นำเข้ามาประจำการในหน่วยงานของตน ถือเป็นทรัพย์สินที่มีค่ายิ่งสำหรับเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกนาย พร้อมเผย จะมีการนำรถสายตรวจลัมบอร์กินีดังกล่าวไปใช้ตรวจตราพื้นที่ในความรับผิดชอบของดีพีเอฟ ที่มีอยู่ทั้งสิ้น 4,114 ตารางกิโลเมตร เพื่อสร้างความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยว
การตัดสินใจสั่งซื้อลัมบอร์กินี อาเวนตาดอร์เข้าประจำการในกองกำลังตำรวจดูไบครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากในช่วงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของดีพีเอฟต้องประสบความยากลำบากในการตามไล่ล่าจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะพวก “นักซิ่งลูกเศรษฐี” ที่มักขับรถซุปเปอร์คาร์ราคาแพงของตนออกมาวาดลวดลายตามท้องถนน ขณะที่รถสายตรวจแบบดั้งเดิมของดูไบเป็นเพียงรถยนต์ธรรมดาซึ่งไม่มีสมรรถนะมากพอ ที่จะเร่งความเร็วตามทันได้
ขณะที่ข้อมูลของทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ระบุว่า ราว 1 ใน 7 ของผู้ที่กระทำผิดกฏหมายจราจรในประเทศของตน คือ พวกที่ถูกปรับเงินเพราะขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด คือ 130 ไมล์ต่อชั่วโมง และปัญหาการออกอาละวาดของพวกซูเปอร์คาร์ที่มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะตามท้องถนนสายต่างๆ กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่สำหรับราชอาณาจักรกลางทะเลทรายแห่งนี้
ก่อนหน้านี้ กองกำลังตำรวจดูไบเคยสั่งซื้อรถ “ดอดจ์ ชาร์จเจอร์ส” จากค่ายรถไครสเลอร์ รวมถึงรถยนต์ยี่ห้อ “เชฟโรเลต” จากค่ายจีเอ็มของสหรัฐฯ มาใช้งาน แต่ก็ยังประสบปัญหาเจ้าหน้าที่ในสังกัดขับรถไล่กวดคนร้ายไม่ทันเช่นเดิม
ดังนั้น การจัดซื้อลัมบอร์กินี อาเวนตาดอร์เข้าประจำการในครั้งนี้ จึงได้รับการคาดหมายจากหลายฝ่ายว่า ปัญหาการขับรถไล่ล่าคนร้ายไม่ทันของตำรวจดูไบน่าจะหมดไปเสียที และประชาชนมากกว่า 2.1 ล้านคนในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังดีพีเอฟน่าจะใช้ชีวิตได้อย่างเป็นสุขและมีความปลอดภัยมากขึ้น
ทั้งนี้ ซูเปอร์คาร์ลัมบอร์กินี อาเวนตาดอร์ สามารถเร่งความเร็วจาก 0-62 ไมล์ต่อชั่วโมงได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2.9 วินาทีเท่านั้น และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 217 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือกว่า 350 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
