บก.ปคม.บุกรวบหนุ่มโรงงานลูกอมแชตหลอก ด.ญ.วัย 14 ปี อ้างเป็นคนรวย ก่อนชักชวนมาอยู่ด้วยกันจะส่งเสียเลี้ยงดู เมื่อเหยื่อมาถึงกลับทำอนาจาร อ้างเด็กหนีมาอยู่ด้วยเอง
วันนี้ (12 ต.ค.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.ชวลิต แสวงพืชน์ ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ประเสริฐ พัฒนาดี รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.แถลงข่าวจับกุม นายอรรถพล อ่ำดี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 4 ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร ซึ่งเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จับกุมได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอยแจ้งวัฒนะ 19 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา นางอิฎฐวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี พนักงานรับส่งเอกสารธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี บุตรสาว ซึ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านราชเทวี กทม.หายตัวไปจากบ้านพักตั้งแต่วันที่ 28 กันยายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้าที่จะหายตัวนั้น ด.ญ.เอ ได้ขอไปเรียนภาษาญี่ปุ่นกับเพื่อนที่ย่านประตูน้ำ แต่ นางอิฎฐวรรณ ไม่อนุญาตเพราะเห็นว่าไกลบ้าน จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้น นางอิฎฐวรรณ ได้ยึดโทรศัพท์มือถือของบุตรสาวเอาไว้ ต่อมา ได้มีนายป๋อง ทราบชื่อภายหลังว่า นายอรรถพล โทรศัพท์เข้ามาหา และบอกว่าจะขอคบหากับ ด.ญ.เอ และอ้างด้วยว่าที่บ้านมีฐานะดี หาก ด.ญ.เอ ยินยอมคบหาเป็นแฟนด้วยก็จะเลี้ยงดูอย่างดี จัดหาสิ่งของที่ต้องการมาให้ทุกอย่าง แต่มารดาได้ห้ามปรามไว้เพราะเห็นว่าบุตรสาวยังเด็ก และยังเรียนหนังสืออยู่
พล.ต.ต.ชวลิต กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นในวันเกิดเหตุ ด.ญ.เอ ก็หายตัวไป แม้ว่านางอิฎฐวรรณจะพยายามโทรศัพท์ไปที่เบอร์ของนายอรรถพล แต่ก็ไม่มีคนรับสาย จึงเข้าแจ้งความไว้ที่ สน.พญาไท ก่อนแจ้งความที่ บก.ปคม.เพื่อให้ช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง หลังจากได้รับเรื่องทางชุดสืบสวน กก.1 บก.ปคม.จึงประสานกับนักสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่เร่งสืบสวนหาตัว ด.ญ.เอ และออกติดตามตัวนายอรรถพล กระทั่งพบนายอรรถพล ที่บ้านพักในซอยแจ้งวัฒนะ 19 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด และสามารถช่วยเหลือ ด.ญ.เอ ไว้ได้อย่างปลอดภัย
สอบสวนนายอรรถพล ให้การปฏิเสธว่า ด.ญ.เอ สมัครใจที่จะมาอยู่กับตนเอง โดยไม่ได้หลอกลวงแต่อย่างใด ที่ผ่านมา ก็คบหาเป็นแฟนกันโดยเริ่มรู้จัก และติดต่อกันผ่านทางโปรแกรมแชตของโทรศัพท์มือถือยี่ห้อหนึ่ง จากนั้นจึงติดต่อกันเรื่อยมาและมีการนัดพบกันดังกล่าว นอกจากนี้ เมื่อ 10 ปีที่แล้วตนเคยก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วแต่ผู้ปกครองของผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความเนื่องจากยังไม่ได้ข่มขืน อย่างไรก็ดี ยอมรับว่าทำงานเป็นเพียงพนักงานบริษัทผลิตลูกอมแห่งหนึ่งย่านถนนแจ้งวัฒนะเท่านั้น ไม่ใช่ลูกเศรษฐีมีฐานะดีอย่างที่เคยอ้างกับฝ่ายหญิง ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป
