เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-ทีมนักศึกษาอินเดียสร้างความฮือฮาครั้งใหญ่ด้วยการคิดค้น “ชุดชั้นในป้องกันการข่มขืน” ซึ่งสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าช็อตขาหื่น พร้อมกับมีระบบส่งข้อความด่วนถึงตำรวจแบบอัตโนมัติเพื่อขอความช่วยเหลือ ถือเป็นความพยายามล่าสุดในการรับมือกับเหตุข่มขืนในแดนโรตีที่พุ่งสูงขึ้นในระยะหลังจนส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ
รายงานข่าวระบุว่า ทีมนักศึกษาด้านวิศวกรรมของอินเดียซึ่งนำโดยนางสาวริมปี ตรีพาธี และมานิชา โมหันประสบความสำเร็จในการออกแบบชุดชั้นในสตรี ที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถป้องกันผู้สวมใส่จากการถูกข่มขืนกระทำชำเราได้
โดยชุดที่ว่านี้มีคุณสมบัติสำคัญคือสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้า 3,800 กิโลโวลต์เข้าช็อตบุคคลที่พยายามจะข่มขืนผู้สวมใส่ชุดชั้นในดังกล่าว โดยทีมออกแบบยังมีการติดตั้งระบบส่งข้อความอัตโนมัติ เพื่อขอความช่วยเหลือไปยังตำรวจหรือสมาชิกในครอบครัวรวมถึงมีระบบจีพีเอสที่สามารถระบุตำแหน่งที่กำลังประสบเหตุร้ายได้ภายในเวลาอันรวดเร็วอีกด้วย
ทีมนักศึกษาที่ประดิษฐ์คิดค้นชุดชั้นในป้องกันการข่มขืนดังกล่าวยืนยันว่า ผู้สวมใส่จะไม่ได้รับอันตรายใดๆจากกระแสไฟฟ้า เนื่องจากระบบเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งไว้บนชุดชั้นในดังกล่าว จะมีความไวต่อแรงกดที่ผิดปกติหรือการสัมผัสที่ไม่พึงประสงค์ ที่เกิดขึ้นบริเวณ “เต้านม” ของผู้สวมใส่เท่านั้น ดังนั้นเมื่อผู้สวมใส่ชุดชั้นในสุดล้ำนี้ถูกมือดีจับหรือบีบบริเวณหน้าอก เซ็นเซอร์ก็จะทำงานด้วยการกระตุ้นกลไกปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าช็อตมือของขาหื่นทันที และกระแสไฟฟ้าที่ถูกปล่อยออกมาก็มากพอที่จะทำให้คนร้ายหยุดชะงักเคลื่อนไหวร่างกายไม่ได้ไปพักหนึ่ง
นักศึกษาสาวทั้ง 2 ราย คือ ริมปี ตรีพาธี และมานิชา โมหันที่มีส่วนในการคิดค้นชุดชั้นในพิเศษดังกล่าวเผยว่าสิ่งประดิษฐ์ของพวกเธอเหมาะกับสภาพสังคมและโลกอันโหดร้ายในปัจจุบันที่พร้อมจะ “พรากความบริสุทธิ์” และศักดิ์ศรีของผู้หญิงอินเดียไปได้ทุกเมื่อหากไม่ทันระวังตัว
ข่าวการคิดค้นชุดชั้นในป้องกันการข่มขืนดังกล่าว ถูกเผยแพร่ออกมาในช่วงที่สังคมอินเดียกำลังเผชิญกับเหตุข่มขืนอย่างต่อเนื่องตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ทั้งข่าวการรุมโทรมนักศึกษาสาววัย 23 ปีรายหนึ่งจนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมถึงเมื่อเดือนที่แล้วที่มีสตรีชาวสวิสและนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรตกเป็นเป้าหมายของความรุนแรงทางเพศ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของอินเดีย จนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนแดนโรตีลดลงกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ และนักท่องเที่ยวสตรีหายไป 35 เปอร์เซ็นต์