xs
xsm
sm
md
lg

UN ผ่านร่างสนธิสัญญาควบคุม “การค้าอาวุธ” ฉบับแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมัชชาใหญ่สหประชาชาติผ่านร่างสนธิสัญญาควบคุมการค้าอาวุธฉบับแรก วานนี้(2) ด้วยมติ 154 ต่อ 3 เสียง ซึ่งจะครอบคลุมทั้งการค้าอาวุธหนักและอาวุธเบาประเภทต่างๆ
เอเอฟพี - สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติผ่านร่างสนธิสัญญาควบคุมการค้าอาวุธฉบับแรก เพื่อเป็นเครื่องมือในการปกป้องสิทธิมนุษยชน และสร้างความโปร่งใสให้แก่อุตสาหกรรมอาวุธทั่วโลก

สมัชชาใหญ่ยูเอ็นผ่านร่างสนธิสัญญาด้วยคะแนน 154 ต่อ 3 เสียง โดยมีเพียงซีเรีย, เกาหลีเหนือ และอิหร่านเท่านั้นที่โหวตไม่เห็นด้วย ขณะที่ประเทศผู้ค้าอาวุธรายใหญ่ของโลกอย่างจีนและรัสเซีย รวมถึงประเทศผู้ซื้ออย่างอียิปต์และอินเดีย อยู่ในกลุ่ม 23 ประเทศที่งดออกเสียง

สนธิสัญญาดังกล่าวระบุกฎเกณฑ์เพื่อควบคุมการค้าอาวุธทั่วโลก ซึ่งมีมูลค่าราว 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี ครอบคลุมทั้งรถถัง, ยานเกราะ, ปืนที่มีขนาดลำกล้องใหญ่, เครื่องบินขับไล่, เฮลิคอปเตอร์โจมตี, เรือรบ, ขีปนาวุธ, ฐานยิงขีปนาวุธ ตลอดจนอาวุธเบาทุกประเภท และยังถือเป็นสนธิสัญญาควบคุมอาวุธนานาชาติฉบับแรก นับตั้งแต่มีสนธิสัญญาห้ามการทดลองอาวุธนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (Comprehensive Nuclear Test Ban Treaty – CNTB) เมื่อปี 1996

ร่างสนธิสัญญาจะเปิดให้ลงนามตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป และจะมีผลบังคับเป็นกฎหมายก็ต่อเมื่อชาติสมาชิกให้สัตยาบันอย่างน้อย 50 ประเทศ ซึ่งกระบวนการที่ว่านี้อาจใช้เวลา 1-2 ปี

ประเทศที่เป็นภาคีสนธิสัญญาจะต้องตั้งหน่วยงานควบคุมการส่งออกอาวุธ และมีมาตรการตรวจสอบได้ว่า อาวุธที่ส่งออกจากประเทศตนไม่ถูกใช้ไปเพื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, อาชญากรรมสงคราม หรือตกไปอยู่ในมือกลุ่มอาชญากรและผู้ก่อการร้าย

บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวชื่นชมสนธิสัญญาควบคุมการค้าอาวุธฉบับนี้ว่าเป็น “ความสำเร็จทางการทูตครั้งประวัติศาสตร์ และเป็นความฝันสูงสุดที่เพียรพยายามมานานหลายปี”

“มันจะเป็นเครื่องมืออันทรงพลังชิ้นใหม่ที่จะช่วยยับยั้งการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือการฝ่าฝืนกฎหมายระหว่างประเทศ... และจะเป็นแรงกระตุ้นไปสู่การปลดอาวุธ และลดการสะสมอาวุธทั่วโลกต่อไป”

อย่างไรก็ดี หลี่ เป่าตง ผู้แทนจีนประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า ปักกิ่งไม่เห็นด้วยกับ “การผลักดันสนธิสัญญาพหุภาคีผ่านเวทีสมัชชาใหญ่ยูเอ็น... ซึ่งจะเป็นบรรทัดฐานที่ไม่ดี แต่ควรใช้วิธีเจรจาเพื่อขอฉันทามติมากกว่า”

ด้านสถาบัน Conflict Awareness Project ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชี้ว่า สนธิสัญญาฉบับนี้ยังมีช่องโหว่สำหรับพวก “คนกลาง” ในแวดวงการค้าอาวุธ

รัสเซียยังไม่ตัดสินใจว่าจะลงนามรับรองสนธิสัญญาควบคุมการค้าอาวุธฉบับนี้หรือไม่ เพราะเล็งเห็นถึงช่องโหว่ ตลอดจนข้อกำหนดที่น่ากังขา เช่น การไม่เอ่ยถึงวิธีควบคุมอาวุธมิให้ตกไปถึงมือกลุ่มที่มิใช่รัฐ

มอสโกนั้นเกรงว่าอาวุธจะตกไปอยู่ในมือกบฎเชเชน แม้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา แหล่งอาวุธหลักของกลุ่มกบฎในเชชเนียก็คือซัพพลายเออร์ในรัสเซีย หรือนายทหารคอรัปชันในกองทัพรัสเซียเองก็ตาม
กำลังโหลดความคิดเห็น