เอเอฟพี - เพียงแค่ 1 วันหลังจากประกาศว่าเข้าสู่ “ภาวะสงคราม” กับเกาหลีใต้ มาถึงวันอาทิตย์ (31 มี.ค.) เกาหลีเหนือก็คุยลั่นต่อไปว่าจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่อาวุธนิวเคลียร์ของตนมากขึ้นอีก พร้อมกับบอกด้วยว่าไม่มีทางเลยที่จะยอมเลิกมี “นุก” เพื่อแลกเปลี่ยนกับได้รับความช่วยเหลือ
ความตึงเครียดกำลังทวีขึ้นอย่างรวดเร็ว นับตั้งแต่ที่เกาหลีเหนือดำเนินการทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยไกลและทดลองอาวุธนิวเคลียร์ จากนั้นสหประชาชาติก็ตอบโต้ด้วยการลงมติเพิ่มมาตรการลงโทษคว่ำบาตร และสหรัฐฯกับเกาหลีใต้เปิดการซ้อมรบทางทหารบริเวณตอนใต้ของพรมแดนสองเกาหลี
เมื่อวันเสาร์ (30 มี.ค.) โสมแดงประกาศว่าตนเองอยู่ใน “ภาวะสงคราม” กับโสมขาว และเตือนเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ ว่า หากขืนทำการยั่วยุใดๆ แล้วก็มีหวังที่ความขัดแย้งจะยกระดับกลายเป็นความขัดแย้งทางนิวเคลียร์แบบเต็มขั้นไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับคำคุยเรื่องเพิ่มความเข้มแข็งในอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือในวันอาทิตย์นั้น เป็นมติของการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เกาหลีเหนือ ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า พรรคผู้ใช้แรงงานเกาหลี โดยที่มีผู้นำคิม จองอึน นั่งเป็นประธานการประชุม
กำลังอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ “ควรที่จะได้รับการเพิ่มขยายและได้รับการยกระดับทั้งในทางคุณภาพและในทางปริมาณ จนกว่าโลกจะมีกระบวนการทำลายล้างอาวุธนิวเคลียร์กันอย่างแท้จริง” สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของทางการโสมแดง รายงานมติของที่ประชุม
นอกจากนั้น คณะกรรมการกลางพรรคผู้ใช้แรงงานเกาหลียังตัดสินใจว่า การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ของโสมแดงนั้น “ควรที่จะได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนโดยกฎหมาย” เคซีเอ็นเอรายงาน แต่ไม่ได้อธิบายรายละเอียดมากกว่านี้
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์โสมแดงยังมีมติให้ทำการพัฒนาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา (light water reactor) โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์เพื่อประโยชน์ทางพลเรือน เพื่อผ่อนคลายภาวะการขาดแคลนไฟฟ้าของประเทศ สำนักข่าวเคซีเอ็นเอระบุ
ทั้งนี้ เกาหลีเหนือได้เปิดเผยตั้งแต่เมื่อปี 2010 ว่าตนเองมีทั้งโรงเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบน้ำมวลเบา พร้อมกับบอกว่าโรงงานอุปกรณ์เหล่านี้มีเพื่อใช้ในการผลิตไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม พวกผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มันสามารถปรับเปลี่ยนให้มาผลิตเชื้อเพลิงเพื่อทำอาวุธนิวเคลียร์ได้อย่างไม่ยากเย็น และจะเป็นตัวเสริมโครงการผลิตอาวุธนิวเคลียร์จากพลูโตเนียมที่เกาหลีเหนือมีอยู่แล้ว
ในเดือนเมษายน 2009 โสมแดงประกาศอย่างเป็นทางการที่จะถอนตัวออกจากการประชุม 6 ฝ่าย (เกาหลีเหนือ, เกาหลีใต้, จีน, รัสเซีย, ญี่ปุ่น, สหรัฐฯ) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะให้ผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแก่โสมแดง แลกเปลี่ยนกับการที่เกาเหลีเหนือดำเนินกระบวนการทำลายล้างอาวุธนิวเคลียร์
คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์โสมแดงยืนยันในวันอาทิตย์ว่า อาวุธนิวเคลียร์ของตนไม่ใช่เป็นหมากที่จะใช้เพื่อการต่อรอง แต่จะเป็น “ทรัพย์สมบัติของประเทศชาติที่จะกลับมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้งหนึ่ง และเป็นทรัพย์สมบัติที่ไม่สามารถต่อรองซื้อขายได้แม้ด้วยเงินระดับเป็นพันๆ ล้านดอลลาร์” เคซีเอ็นเอรายงานโดยอ้างว่าเป็นคำพูดของพวกสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรค