เอเอฟพี/เอเจนซี - ราคาน้ำมันและวอลล์สตรีทวานนี้ (26) พุ่งแรง จากแรงหนุนข้อมูลใหม่ของสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้กำลังฟื้นตัวอย่างมั่นคง ขณะที่ทองคำขยับลง หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร
สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.19 ดอลลาร์ ปิดที่ 109.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ได้แรงหนุนของดัชนีราคาบ้านเดี่ยวสหรัฐฯ ซึ่งปรับตัวดีขึ้นในเดือนมกราคม และเป็นอัตราที่ร้อนแรงที่สุดในรอบกว่า 6 ปี ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนประจำเดือนกุมภาพันธ์ก็พุ่งจากอุปสงค์ในกลุ่มสินค้าด้านการคมนาคมขนส่งที่ดีดตัวสูงขึ้น
ปัจจัยข้างต้นส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (26) ขยับขึ้นแรง แม้ว่าข้อมูลภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการผลิตที่เผยแพร่ออกมาจะดีขึ้นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปก็ตาม
ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 111.43 จุด (0.77 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 14,559.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 17.18 จุด (0.53 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,252.48 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 12.08 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,563.77 จุด
วอลล์สตรีทปิดบวกอย่างแข็งแกร่ง แม้ข้อมูลอีกด้านหนึ่งจะพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนมีนาคม อ่อนตัวลงต่ำกว่าคาดการณ์ เนื่องจากศึกการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลส่งผลกระทบต่อมุมมองของชาวอเมริกันที่มีต่อแนวโน้มของเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด อ่อนตัวลงมาอยู่ที่ 59.7 จุด จากระดับเดือนกุมภาพันธ์ที่ 68 จุด
ด้านราคาทองคำวานนี้ (26) ขยับลงพอสมควร หลังยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มที่ล้อมรอบข้อตกลงช่วยเหลือไซปรัสและข้อมูลบวกทางเศรษฐกิจของอเมริกา ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 8.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,595.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์